สำรวจเผยหนุ่มสาวยุคมิลเลนเนียลและวัยรุ่นเจน Z กลัวผู้ขับขี่คนอื่นๆ มากกว่า ความตาย การพูดในที่สาธารณะ และ แมงมุม

ข่าวยานยนต์ Wednesday July 8, 2015 19:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ จากผลสำรวจชิ้นใหม่ ระบุว่า ผู้บริโภคในวัยมิลเลเนียลและวัยรุ่นเจนเนอร์เรชั่น z ต่างหวาดผวาต่อผู้ที่ขับขี่ที่ขับรถอย่างอันตรายบนท้องถนนมากกว่าความตาย การพูดในที่สาธารณะ และ แมงมุม การขับขี่ที่กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกตื่นกลัวเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ การขับขี่บนถนนที่แออัด การจอดรถในที่แคบ และการเล็งจุดบอดขณะขับขี่ ฟอร์ดประกาศความพร้อมในการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในรถยนต์ทุกรุ่นในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลการสำรวจเผยว่า การพูดในที่สาธารณะไม่ใช่สิ่งแรกๆ ที่วัยรุ่นหวาดกลัวมากที่สุดอีกต่อไป โดยผู้ขับขี่ที่วอกแวกหรือการขับขี่อย่างอันตรายกลายมาเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในยุคมิลเลนเนียล และวัยรุ่นเจนเนอร์เรชั่น z หวาดกลัวเป็นอันดับต้นๆ จากการสำรวจของบริษัทวิจัยอิสระ เพ็นน์ โชเอ็น เบอร์แลนด์ พบว่า กว่าสิบปีที่การพูดในที่สาธารณะเป็นกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่มักจะกังวลและตื่นกลัวมากที่สุด แต่ในปัจจุบันผู้ใช้ท้องถนนที่ขับขี่อย่างอันตรายกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวกว่าการพูดในที่สาธารณะ ความตาย แมงมุม และ งู สิ่งที่ผู้บริโภคในยุคมิลเลเนียลและวัยรุ่นเจนเนอร์เรชั่น z หวาดกลัวเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ ผู้ใช้ท้องถนนที่ขับขี่อย่างอันตราย ร้อยละ 88 การพูดในที่สาธารณะ ร้อยละ 75 ความตาย ร้อยละ 74 แมงมุม ร้อยละ 69 งู ร้อยละ 69 "กลุ่มเด็กรุ่นใหม่จะเติบโตมากับความหวาดกลัวที่แตกต่างจากความหวาดกลัวในหมู่พ่อแม่หรือปู่ย่าตายาย" นายเควิน ชโคลนิค รองประธานสถาบันวิจัยอิสระ เพ็นน์ โชเอ็น เบอร์แลนด์ กล่าว "ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยมักจะกังวล และตื่นกลัวกับผู้ขับขี่ที่ขับรถอย่างวอกแวกและอันตราย โดยผลสำรวจยังพบว่ามีความต้องการด้านเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่เพิ่มมากขึ้น" สถานการณ์ในการขับขี่ที่ทำให้กังวลใจมากที่สุดในหมู่ผู้ตอบแบบสำรวจ ได้แก่ ถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหรือน้ำแข็ง ร้อยละ 79 การจอดรถในที่แคบ ร้อยละ 75 การขับขี่บนถนนที่แออัด ร้อยละ 74 การมองในจุดบอดขณะขับขี่ ร้อยละ 70 การไม่รู้ทิศทางในการขับขี่ ร้อยละ 69 ผลการวิจัยนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันการตัดสินใจของฟอร์ดในการนำเสนอเทคโนโลยีที่จะช่วยลดความกังวลใจของผู้ขับขี่ โดยการ ประกาศติดตั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ๆ ในรถยนต์ของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า "การวิจัยในลักษณะนี้มีความสำคัญต่อฟอร์ดและผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เพราะเป็นการวิจัยที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความตึงเครียด" นายคริสตัล เวิร์ธเธ็ม ผู้จัดการด้านการตลาดและแบรนด์สินค้าของฟอร์ดกล่าว "จากหัวข้อผู้ขับขี่ที่วอกแวกและความกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ทำให้เราสามารถมองเห็นว่าเทคโนโลยีประเภทใดจะสามารถช่วยให้ลูกค้าสามารถต่อสู้กับความหวาดกลัวเหล่านี้ได้" ปัจจุบันนี้ รถยนต์ฟอร์ดได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีที่ต้องการมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น กล้องมองหลัง ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า วิศวกรของฟอร์ดยังคงเดินหน้าพัฒนา เทคโนโลยีเพื่อวันข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ระบบช่วยเหลือก่อนการปะทะ ระบบแจ้งระวังผู้เดินทางเท้า และระบบการจอดรถจากระยะไกล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ