กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--เวิรฟ
ในช่วงหน้าฝน คุณพ่อคุณแม่หลายคนมักกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อยจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน รวมถึงความอับชื้นและความรู้สึกไม่สบายตัวที่เกิดขึ้นหลังจากสายฝนที่พัดผ่านไป การเลือกไอเท็มเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศจึงกลายเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น คอตตอน ยูเอสเอ จึงร่วมกับ Puppet แบรนด์เสื้อผ้าเด็กชั้นนำมาแนะเคล็ดลับในการเลือกเสื้อผ้า รวมถึงเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์ไอเท็มเสื้อผ้าให้คุณหนูๆ ได้สวมใส่อย่างสบายตัวพร้อมเริงร่าสดใสตลอดช่วงหน้าฝน
คุณไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า "ในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยและค่อนข้างอับชื้น การเลือกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มรวมถึงผลิตภัณฑ์สิ่งทอสำหรับลูกน้อย อย่าง ผ้าอ้อม ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าห่มเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและพิถีพิถันเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับผิวอันบอบบางของลูกๆ โดยตรง โดยคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอสำหรับเด็กที่ผลิตจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ 100%เนื่องจากเส้นใยฝ้ายเป็นเส้นใยที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งยังมีสัมผัสที่นุ่มสบาย และอ่อนโยนต่อผิวซึ่งไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองแก่ผิวของลูกน้อยขณะสวมใส่"
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่คุณพ่อคุณแม่รับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกๆ ในช่วงหน้าฝน คอตตอน ยูเอสเอจึงได้เชิญนายแพทย์สิวะรัตน์ โชตินุกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ รวมถึงคุณธัญญ์นภัส รัฐนนท์ศักดิ์ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการตลาดผลิตภัณฑ์ Puppet , Lee kids และPJ kidsมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขอนามัย และการเลือกเสื้อผ้าให้แก่ลูกน้อยในช่วงฤดูฝนกันอีกด้วย
นายแพทย์สิวะรัตน์ โชตินุกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ กล่าวว่า "ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ซึ่งพอถึงในช่วงฤดูฝนแล้วอากาศจะยิ่งร้อนและอับชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเกิดโรคผิวหนังบางชนิดหรือผื่นแพ้ได้ง่าย โดยปัญหาสุขอนามัยทางด้านผิวหนังของเด็กที่มักจะพบได้บ่อยในช่วงนี้ ได้แก่ โรคผิวหนังติดเชื้อราในร่มผ้า หรือผิวหนังอับชื้นที่อาจเกิดขึ้นในกลุ่มของเด็กเล็กที่สวมใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป และสวมใส่เสื้อผ้าที่อากาศไม่สามารถถ่ายเทได้สะดวก รวมไปถึงในเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังก็อาจประสบกับปัญหานี้ได้ ในส่วนของคุณหนูๆ ที่ชอบเล่นสนุกซุกซนจนทำให้เกิดรอยถลอกหรือบาดแผลตามร่างกาย เมื่อสัมผัสกับน้ำที่ขังอยู่ตามแหล่งต่างๆ ก็อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบ หรือตุ่มพุพองจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นกัน นอกจากโรคผิวหนังติดเชื้อที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว โรคผื่นผิวหนังภูมิแพ้ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาการที่สามารถพบได้บ่อยในช่วงนี้ ซึ่งโรคนี้เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ไวกว่าปกติทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้น โดยอาจเกิดร่วมกับโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เช่น แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น เกสรดอกไม้ได้ด้วย โดยลักษณะอาการของเด็กที่เป็นโรคนี้จะมีที่ผิวแห้งและคันทั่วตัว รวมถึง มีผื่นแดงขึ้นตามบริเวณร่างกาย โดยเฉพาะข้อพับ แขน ขา และคอ ซึ่งเมื่อเจอกับอากาศร้อนชื้นหรือมีเหงื่อออกก็จะคันมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากปล่อยให้กลายเป็นโรคเรื้อรัง ผิวหนังของเด็กจะหนาและมีรอยคล้ำขึ้น และถ้าหากเด็กเกาจนเป็นแผลก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียและเป็นหนองตามมาในภายหลังได้ ดังนั้น ผู้ปกครองควรดูแลไม่ให้คุณหนูๆ เดินย่ำบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และให้อยู่ในสถานที่ที่มีสภาพอากาศไม่อับชื้นมากเกินไป อีกทั้งควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสัมผัสนุ่มสบายไม่ระคายเคืองผิว และเนื้อผ้าโปร่งโล่งสบาย ไม่หนาจนเกินไปเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถอุ่นใจได้ว่าในช่วงหน้าฝนนี้ ผิวพรรณของคุณหนูๆ จะมีสุขอนามัยที่ดีอย่างแน่นอน
คุณธัญญ์นภัส รัฐนนท์ศักดิ์ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการตลาดผลิตภัณฑ์ Puppet , Lee kids และ PJ kids ได้แนะนำเทคนิคการเลือกเสื้อผ้า พร้อมทิปส์มิกซ์แอนด์แมทช์ไอเท็มเสื้อผ้าให้ชิคและคูลในช่วงหน้าฝนไว้ดังนี้ "ในช่วงหน้าฝนที่สภาพอากาศค่อนข้างเหนอะหนะและอับชื้น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อสัมผัสเบาสบายเหมาะแก่การทำแอคทิวิตี้ในแต่ละวัน ซึ่งสำหรับเด็กผู้หญิง คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกหยิบเดรสตัวสั้นที่มีดีเทลที่น่ารักเหมาะกับวัย หรือเสื้อยืดแขนกุดกับกางเกงขาสั้นก็ได้ ในส่วนหนุ่มน้อยนั้น เสื้อยืดหรือเสื้อทีเชิ้ตรวมไปถึงกางเกงขาสั้นถือเป็นหนึ่งในมัสแฮฟไอเท็มของเด็กๆ ในช่วงนี้ และหากคุณพ่อคุณแม่อยากให้คุณหนูๆ สวมใส่กางเกงขายาว ควรเลือกกางกางที่มีเนื้อผ้าบางเบาและแห้งง่ายเพื่อช่วยระบายอากาศ อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงขายาวเนื่องจากอาจทำให้คุณหนูๆ รู้สึกไม่สบายตัวได้ และนอกจากการเลือกไอเท็มเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศแล้ว บรรดาคุณแม่ที่หลงใหลในเรื่องของแฟชั่นก็ไม่ควรพลาดที่จะอัพเดทเทรนด์การแต่งกายของลูกน้อยด้วยเช่นกัน ซึ่งเทรนด์สีสันสดใส อาทิ สีฟ้า เขียว ม่วง หรือชมพู ได้กลายมาเป็นสียอดนิยมแทนสีขาวสะอาดตาที่อาจเปรอะเปื้อนได้ง่ายในช่วงนี้ และในส่วนของการแต่งตัวนั้นคุณแม่อาจนำเสื้อทีเชิ้ตหรือเสื้อโปโลสีสันสดใสจับคู่กับกางเกงขาสั้นสีพื้น หรือหากต้องการให้คุณหนูๆ ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นอาจหยิบกางเกงผ้าที่มีลวดลาย อย่าง ลายดอก หรือลายจุด (Polka Dots) แมทช์กับเสื้อสีพื้นหรือสีตัดกัน ซึ่งเทคนิคมิกซ์แอนด์แมทช์นี้สามารถแต่งได้ทั้งกับเด็กชายและเด็กหญิงเลยทีเดียว เพียงเท่านี้คุณหนูๆ ก็ดูชิค และเท่ ได้อย่างมั่นใจ"
นอกจากคุณภาพที่ดีของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแล้ว การมองหาแอคทิวิตี้ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาพที่ดีของลูกน้อยก็เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นความสดใสในตัวของคุณหนูๆ ได้เป็นอย่างดี