มท.1 กำชับ ปภ. ประสาน 15 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้

ข่าวทั่วไป Friday July 17, 2015 14:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มท.1 กำชับ ปภ. ประสาน 15 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 16 – 20 ก.ค.58 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) สั่งการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 15 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากฝนตกหนัก รวมถึงคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 16 – 20 กรกฎาคม 2558 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง กรณีสถานการณ์รุนแรง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการอพยพและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ได้ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 16 – 20 กรกฎาคม 2558 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ทะเล มีคลื่นสูง จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 15 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง โดยตรวจสอบท่อ ทางระบายน้ำในเขตเมืองมิให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมถึงตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำและคันกั้นน้ำ รวมถึงสถานที่ท่องที่ยวให้มีความมั่นคงแข็งแรง จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 15 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้ ให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำ ลำคลอง ลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีขุ่นข้นหรือสีเดียวกับสีดินภูเขา ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ป่าต้นน้ำมากกว่า 100 มม. ต่อวัน เป็นต้น จะได้อพยพหนีภัยได้ทันท่วงที ส่วนชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็ก ควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ