กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
EGA จัดสำรวจระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหน่วยงานภาครัฐระดับกรมจำนวน 271 หน่วยงาน เผยภาครัฐส่วนใหญ่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่รัฐวิสาหกิจมีความพร้อมในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด มุ่งใช้ผลสำรวจนำไปกำหนดแนวทางการพัฒนานโยบายการขับเคลื่อน e-Government ของหน่วยงานได้อย่างเหมาะสม
สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) หรือ EGA หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ในการพัฒนา e-Government ของประเทศ เพื่อยกระดับการพัฒนาให้ก้าวสู่ Digital Government ได้ดำเนินโครงการสำรวจระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ โดยได้สำรวจความพร้อมด้านเทคโนโลยีและการวางแผนของหน่วยงานระดับกรมจำนวน 271 หน่วยงาน ในระหว่างวันที่ 16 มีนาคม 2558 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา โดยมีองค์ประกอบในการสำรวจที่สำคัญ 2 ส่วนคือ
ส่วนแรก การสำรวจระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ โดยผลสำรวจพบว่า หน่วยงานภาครัฐมีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Government Infrastructure) มากที่สุด ซึ่งหน่วยงานประเภทรัฐวิสาหกิจมีระดับความพร้อมในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด ในขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ได้รับทราบถึงแนวทางการบรูณาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ากับกระบวนการการทำงาน Enterprise Architecture (EA) ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมแผน
การสำรวจส่วนที่สองคือ การสำรวจสถานภาพปัจจุบันของการให้บริการผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ ได้ผลการสำรวจว่า ภาพรวมการให้บริการผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานซึ่งจำแนกตามเนื้อหาเว็บไซต์ ภาครัฐส่วนใหญ่เป็นการให้บริการด้านการเผยแพร่ข้อมูลพื้นฐาน และเมื่อจำแนกตามระดับการพัฒนาการให้บริการพบว่าหน่วยงานภาครัฐให้บริการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนมากที่สุด
สำหรับผลสำรวจดังกล่าวได้นำเสนอภายในงาน "Toward Digital Government : Thailand e-Government Readiness" จัดขึ้นในวันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2558 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นจูรี่พาร์ค ราชปรารภ กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากนาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานในการเปิดสัมมนา พร้อมกล่าวว่า
"การพัฒนาและขับเคลื่อนรัฐบาลด้วยเทคโนโลยีมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยกรอบการติดตามประเมินวัดเพื่อจะได้สะท้อนภาพที่เป็นจริงและทันต่อการบริหารการเปลี่ยนแปลงแ อีกทั้งยังจะช่วยบ่งบอกถึงส่วนที่ต้องเร่งพัฒนาเพิ่มเติม (Gap Identification) ที่หน่วยงานสามารถนำไปพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม หรือนำไปประกอบในจัดทำคำของบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ที่มีความสำคัญให้เกิดขึ้นได้จริงต่อไป ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานภาครัฐ"
ด้านนางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "การจัดสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลที่สะท้อนสถานภาพที่แท้จริง รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการขับเคลื่อนรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการวางแผน จัดทำมาตรการ กำหนดแนวทางการพัฒนานโยบายการขับเคลื่อนรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัล สอดรับกับนโยบาย Digital Economy ต่อไป"