PAE ชี้แจงประเด็นร้อน ยันไม่เคยให้เงินกู้กรรมการ-ผู้บริหาร มีแต่บริษัทเป็นลูกหนี้ ยืมเงินใช้หมุนเวียนในกิจการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 31, 2015 15:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--Worklink PR PAE ชี้แจงประเด็นร้อน ยันไม่เคยให้เงินกู้กรรมการ-ผู้บริหาร มีแต่บริษัทเป็นลูกหนี้ ยืมเงินใช้หมุนเวียนในกิจการ ระบุปี 57 ขาย PP ราคาต่ำ เพราะไม่มีใครสนใจลงทุน จำเป็นต้องแก้ปัญหาขาดสภาพคล่อง ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ พาบริษัทรอดถึงปัจจุบัน ส่วนการเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น ต้องการให้นักลงทุนรับทราบข้อเท็จจริง ประกอบการตัดสินใจ พร้อมแต่งตั้ง IFA ให้ความเห็นการลงทุนธุรกิจบริหารจัดการน้ำ เตรียมใช้กฎหมายจัดการกลุ่มนำเสนอข้อมูลบิดเบือน โจมตี นายรัฐชัย ภิชยภูมิ กรรมการบริหาร บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (PAE) เปิดเผยถึงกรณีตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย PAE และเครือข่ายปกป้องสิทธิผู้ถือหุ้นรายย่อยเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า กรณีที่มีการกล่าวหาเรื่องธุรกรรมการกู้ยืมเงินระหว่างบริษัทกับกลุ่มผู้บริหาร ประกอบด้วย นางอุไรรัตน์ บุญอากาศ นางสาวจินตนา กาวีวงศ์ และนายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท ข้อเท็จจริงบริษัทเป็นผู้กู้เงินจากกลุ่มผู้บริหารมิใช่ผู้ให้กู้ เนื่องจากบริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถใช้วงเงินกู้ยืมจากธนาคารหรือแหล่งเงินใดๆ จึงจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากกรรมการ เพื่อใช้หมุนเวียนในการดำเนินงาน ส่วนกรณีการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ในปี 57 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตการเงินอย่างรุนแรงของบริษัท มีภาระหนี้สินกับสถาบันการเงิน เจ้าหนี้การค้าจำนวนมาก ส่วนของผู้ถือหุ้นมีโอกาสติดลบ จึงมีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน การเพิ่มทุนครั้งแรกขอมติผู้ถือหุ้นไว้ 550 ล้านหุ้น แต่หาผู้ลงทุนได้เพียง 350 ล้านหุ้น ต่อมาจึงได้มีการเสนอขาย PP ให้แก่ผู้ลงทุนจำนวน 15 ราย ในราคา 0.60 บาท เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องและส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างเร่งด่วน ทำให้บริษัทรอดพ้นวิกฤตและสามารถดำเนินกิจการได้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการเสนอขาย PP ในปีที่แล้วผู้บริหารได้พยายามติดต่อหาผู้ลงทุนที่มีศักยภาพด้านการเงินหลายราย แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทติดลบอย่างมากจากบางหน่วยธุรกิจในอดีตแต่ปัจจุบันได้ยกเลิกหน่วยธุรกิจนั้นไปแล้ว ไม่มีผู้ลงทุนสนใจลงทุน บริษัทจำเป็นต้องออก PP ในราคาที่จูงใจนักลงทุน สำหรับการเสนอเพิ่มทุนครั้งล่าสุดกับ บริษัทคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเดิมเป็นสำคัญ โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO-Right Offering) จำนวน 5,541.48 ล้านหุ้นราคา 0.20 บาท ซึ่งต่ำกว่า เสนอขาย PP เมื่อปีก่อนถึง 300% และกำหนดราคาขาย PP จำนวน 2,000 ล้านหุ้นที่ 90% ของราคาตลาดในเวลานั้น (หากราคาหลักทรัพย์เฉลี่ย 7-15 วันก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติให้ชำระเงินเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด อยู่ที่หุ้นละ 0.31 บาท ราคา PP จะอยู่ที่หุ้นละ 0.28 บาทซึ่งสูงกว่าราคาขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม) ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม มีมากกว่า 2.5 เท่าของจำนวนที่จัดสรรให้บุคคลในวงจำกัด นอกจากนี้การเข้าไปลงทุนใน บริษัท พีพีเอสเอนเนอยี่ แอนด์ มารีน จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจบริหารจัดการน้ำในภาคอุตสาหกรรม บริษัทเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ดี มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับบริษัทได้ โดยคาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวประมาณ 200 ล้านบาท/ปี อย่างไรก็ตามการเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นออกไป เนื่องจากต้องการให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน มีเวลาพิจารณาและรับทราบข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน เพราะมีขบวนการที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มตนเองในการทำกำไรจากราคาหลักทรัพย์ โดยสร้างข่าวเสียหาย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ลดความน่าเชื่อถือของบริษัทและคณะกรรมการ ซึ่งหากการเพิ่มทุนไม่สำเร็จอาจสร้างโอกาสให้กลุ่มคนที่ต้องการครอบงำกิจการและนำหลักทรัพย์ของบริษัทไปแสวงหากำไร โดยไม่ได้ต้องการพัฒนาบริษัทอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันบริษัทจะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ(IFA) เพื่อให้ข้อคิดเห็นประกอบการตัดสินใจแก่นักลงทุน และจะดำเนินการเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จ เพื่อบริหารและพัฒนาบริษัทให้มีรายได้และผลกำไรต่อไป "บริษัทได้มีการหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับการเพิ่มทุนและการดำเนินการด้านต่างๆ และเห็นพ้องต้องกันว่าบริษัทควรจัดตั้ง IFA ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงต่อจากนี้บริษัทจะเร่งดำเนินการแต่งตั้ง IFA และดำเนินการเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเงินให้ฐานะกิจการกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว"นายรัฐชัย กล่าว สำหรับการให้ข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับ PAE ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเห็นว่าผู้ที่ดำเนินการควรร่วมกันเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์ ร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กลับสู่ภาวะปกติ และหยุดการกล่าวอ้างพาดพิงถึงบริษัทรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในทางเสียหายและไม่เป็นจริง ซึ่งบริษัทได้มอบหมายให้ตัวแทนดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังรวมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งได้ติดตามการดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อนำผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษต่อไป ผู้ลงทุนทุกท่านสามารถสอบถามติดต่อขอข้อมูลและแนวทางที่เป็นประโยชน์มาบริษัทฯ ทางอีเมล์info@pae.co.th โดยบริษัทฯยินดีที่จะให้ข้อมูลความเป็นจริงที่เป็นประโยชน์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ