รมว.พม. สั่ง กคช. เร่งนำข้อเสนอชาวแฟลตดินแดงมาทบทวนแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง พร้อมชื่นชมแม่ที่เสียสละดูแลเลี้ยงลูกพิการ ที่จังหวัดอ่างทองและพิษณุโลก

ข่าวทั่วไป Monday August 10, 2015 15:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (๗ ส.ค. ๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๒๑๔/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณแฟลตดินแดง ของตนและคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแฟลตดินแดง ต่อการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ณ บริเวณพื้นที่อาคารแฟลตดินแดง และที่ทำการสำนักงานเคหะชุมชนดินแดง ๑ กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ (๖ ส.ค. ๒๕๕๘) ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหาต่างๆ จากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน เช่น ประชาชนไม่เห็นด้วยกับแผนแม่บทของโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง เนื่องจากจะมีการปรับให้ขนาดพื้นที่แต่ละห้องลดลงเหลือเพียง ๓๓ ตารางเมตร จากเดิมปัจจุบันแต่ละห้องมีพื้นที่ขนาด ๔๒ ตารางเมตร ค่าเช่าที่จะปรับสูงขึ้น การบริหารจัดการของการเคหะแห่งชาติที่ไม่มีประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการ และไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของการเคหะแห่งชาติที่จะบริหารจัดการโครงการดังกล่าว เป็นต้น ซึ่งตนได้รับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นต่างๆมาพิจารณา และตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาตินำข้อเสนอของประชาชน ทั้งในเรื่องของพื้นที่ภายในห้อง ค่าเช่าที่เป็นธรรมกับผู้พักอาศัย และข้อเสนออื่นๆไปพิจารณาปรับปรุง ก่อนนำข้อสรุปดังกล่าว มาหารือกับตนถึงแนวทางแก้ไขภายในวันจันทร์ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ เพื่อจะได้นำข้อสรุปรายละเอียดที่ปรับแก้ชี้แจงให้กับประชาชนในพื้นที่ในวันที่ ๑๗ สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ตนยังได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดงใหม่ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจถึงเจตนาของภาครัฐในการดำเนินงานซึ่งต้องดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ น่าเชื่อถือ และคาดว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในเร็วๆนี้ "สำหรับกรณีหญิงอายุ ๔๓ ปี รับภาระเลี้ยงดูลูกสาว อายุ ๑๒ ปี ที่ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบแขนและขาอ่อนแรง แต่ลูกสาวอยากเรียนหนังสือ เป็นเด็กเรียนดี จึงเฝ้ารับส่งลูกสาวที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ ขณะเรียนหนังสือที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ที่จังหวัดอ่างทอง และกรณีหญิงอายุ ๔๘ ปี รับภาระเลี้ยงดูลูก๓ คนเพียงลำพัง โดยเฉพาะลูกสาววัย ๔ ขวบ ที่พิการตั้งแต่กำเนิด ป่วยเป็นโรคหัวโต มีน้ำไหลออกมาตลอด มีอาชีพเก็บของเก่าขายหาเงินประทังชีวิตเลี้ยงตนเองและลูกไปวันๆ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดพิษณุโลก ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) ทั้ง ๒ จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบจ้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของเด็กที่ป่วย ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมและให้กำลังใจแม่ทั้ง ๒ คน ถึงแม้จะยากลำบากแต่มีความอดทนและเสียสละเพื่อลูก"พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ