กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายแก่ผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ได้มอบแนวทางการทำงานให้กับข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้ยึดหลักการทำงานและการเร่งรัดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องทำงานอย่างโปร่งใส ไม่คอรัปชั่น ทั่งด้านการเงินและด้านข้อมูล โดยเฉพาะความโปร่งใสในข้อมูล ที่จะสามารถนำเสนอผู้บังคับบัญชาและสาธารณะชนได้อย่างโปร่งใสชัดเจน การยึดหลักนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี คือ “ทำก่อนและทำทันที” ตาม Road Map 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน ระยะต่อเนื่อง และงานที่ต้องการให้เกิดความยั่งยืน การให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางการทำงานในทุก ๆ เรื่อง และจะต้องมีผู้รับผิดชอบการทำงานในทุกระดับอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังเน้นการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง และมุ่งผลสัมฤทธิ์สู่เกษตรกรเป็นหลัก โดยจะต้องมีการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร รวมถึงสถาบันการศึกษา ทั้งนี้ สำหรับนโยบายที่นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการดำเนินการมาแล้วนั้น ก็จะดำเนินการต่อไป โดยจะต้องขับเคลื่อนแผนงานโครงการให้เกิดประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และเห็นผลได้ทันที
พลเอก ฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า งานเร่งด่วนที่ต้องการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการ ได้แก่ 1) การแก้ไขปัญหาไอยูยู ซึ่งได้มอบหมายให้นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งทีมงานเข้าไปดูแลกรมประมง โดยให้ดูแลความเรียบร้อยในการจัดทำแผนต่าง ๆ ที่จะต้องส่งภายในวันที่ 31 ส.ค. นี้ เพื่อนำเสนอต่อ EU 2) การลดต้นทุนการผลิตในภาคเกษตรทั้งหมด จะมีการปรับปรุงรูปแบบการทำงาน โดยจะต้องมีรูปแบบใหม่ ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เช่น การรวมแปลงขนาดใหญ่ ผ่านสหกรณ์ เป็นต้น 3) การจัดทำฐานข้อมูลเกษตรกร ที่มีอยู่แล้วอาจจะไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างครบทุกมิติ จึงมีความสำคัญที่จะต้องเร่งจัดทำฐานข้อมูลเกษตรกร เพื่อจะนำไปสู่การตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน เช่น สถานภาพครัวเรือน สถานการณ์ด้านการเงิน รวมไปถึงเครื่องมือการเกษตร และรายได้ด้านอื่น ๆ เป็นต้น และ 4) การจัดหาแหล่งน้ำ ต้องเป็นการเตรียมการ โดยคำนึงถึงการใช้น้ำในระยะยาว
สำหรับงานที่ต้องการให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การทำการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ ปัจจัยการผลิต การปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ ด้านสหกรณ์ ที่จะต้องให้ความสำคัญและการสามารถใช้สหกรณ์ให้เป็นประโยชน์ โดยสามารถกำกับตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ การรวมกลุ่มและการเพิ่มประสิทธิภาพของสหกรณ์ได้ การปรับปรุงรัฐวิสาหกิจ การปรับปรุงโครงสร้างราชการให้เหมาะสม และที่สำคัญคือปัญหาหนี้สินเกษตรกร ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องต่อไป
นอกจากนี้ งานที่ต้องการให้เกิดความยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญเรื่องของงานวิจัย โดยให้มีการสนับสนุนในทุกแผนงานหรือโครงการของกระทรวงเกษตรฯ การจัด Zoning การปลูกพืช การหาแหล่งน้ำ การสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ ต้องให้เกิดความยั่งยืนและความเข้มแข็งขึ้นในอนาคต การจัดลำดับความน่าเชื่อถือของสหกรณ์ การปรับปรุงรัฐวิสาหกิจให้สามารถพึ่งตนเองได้ และสามารถบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งในภาคราชการ ต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง และการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้มีการประชุมผู้บริหารระดับสูงทุกวันพุธ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกสัปดาห์อีกด้วย