โพลล์เผยคนสุดทน โฆษณาแสนรำคาญยังถูกเก็บค่าบริการ

ข่าวทั่วไป Tuesday September 1, 2015 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ แถลงผลสำรวจผู้รับผลกระทบข้อความขายของผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ จนมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ศ.ศรีศักดิ์กล่าวว่าผลสำรวจในระหว่างวันที่ 24 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,176 คนสามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.77 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 49.23 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 32.14 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปี นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 33.67 และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชนคิดเป็นร้อยละ 31.29 และข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจคิดเป็นร้อยละ 23.98 ในด้านพฤติกรรมการรับบริการส่งข้อความสั้น (SMS) ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.65 ระบุว่าตนเองเคยสมัครรับบริการส่งข้อความสั้นจากผู้ประกอบการทั่วไป เช่น บริการส่งข่าวสาร บริการดูดวง บริการด้านการเงินจากธนาคาร เป็นต้นและปัจจุบันยังคงใช้บริการอยู่ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.3 ระบุว่าตนเองเคยสมัครใช้บริการแต่ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 15.05 ระบุว่าตนเองไม่เคยสมัครใช้บริการเลย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 73.04 ระบุว่าตนเองเคยได้รับข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการต่างๆผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นประจำ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 26.96 ระบุว่าเคยได้รับบ้าง ในด้านความรับรู้เกี่ยวกับการยกเลิกรับบริการส่งข้อความสั้นโฆษณาสินค้าบริการ กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่งหรือคิดเป็นร้อยละ 48.3 ระบุว่าตนเองรับทราบวิธีการยกเลิกรับบริการส่งข้อความสั้น (SMS) นำเสนอสินค้าและบริการในกรณีที่ตนไม่สนใจ/ไม่ต้องการรับบริการจากผู้ประกอบการเป็นส่วนน้อย ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 33.33 ระบุว่าตนเองไม่เคยรับทราบจากผู้ประกอบการทุกราย มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 12.93 ที่ระบุว่าตนเองรับทราบวิธีการยกเลิกจากผู้ประกอบการเป็นส่วนใหญ่ และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 5.44 ไม่แน่ใจ/จำไม่ได้ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 47.36 ยอมรับว่าตนเองเคยถูกเรียกเก็บค่าบริการจากการรับข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างถึงประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 66.24 ไม่ทราบว่าผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีบริการยกเลิก/ปิดการรับข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการต่างๆมิให้ส่งมายังโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ในด้านความคิดเห็นต่อบริการส่งข้อความสั้นโฆษณาสินค้าบริการ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 61.82 มีความคิดเห็นว่าในปัจจุบันมีการส่งข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปริมาณที่มากเกินไป ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 52.72 ระบุว่าตนเองรู้สึกรำคาญบ้างเวลาได้รับข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 57.48 มีความคิดเห็นว่าในปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรในการแก้ไขปัญหาการส่งข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น เรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีการแจ้งก่อน การไม่แจ้งวิธียกเลิกการรับบริการ เป็นต้น โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างไม่ถึงหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 32.23 มีความคิดเห็นว่าให้ความสนใจ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.29 ไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 72.19 มีความคิดเห็นว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ควรมีส่วนรับผิดชอบในกรณีที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องเสียค่าบริการจากการรับข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการที่เป็นการเอาเปรียบโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 68.11 มีความคิดเห็นว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีส่วนช่วยลดปัญหาการส่งข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น เรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีการแจ้งก่อน การไม่แจ้งวิธียกเลิกการรับบริการ เป็นต้นได้ และกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.76 มีความคิดเห็นว่าการเพิ่มโทษให้รุนแรงขึ้นกับผู้ประกอบการที่ส่งข้อความสั้น (SMS) โฆษณาสินค้าและบริการที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น เรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีการแจ้งก่อน การไม่แจ้งวิธียกเลิกการรับบริการ เป็นต้นจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ