กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 01 ตุลาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,111.58-1,116.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,350 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,440 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.33 น.ของวันที่ 30/09/15)
แนวโน้มวันที่ 02 ตุลาคม 2558
อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนที่ติดลบจะเป็นปัญหาสำหรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งดำเนินการซื้อสินทรัพย์ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยอีซีบีระบุว่าอาจต้องเพิ่มหรือขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออาจลดลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับเกือบ 2% ในปี 2017 หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายปีในเดือนกันยายน แนวโน้มการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กดดันให้สกุลเงินยูโรมีทิศทางอ่อนตัวลงและได้กดดันให้แนวโน้มราคาทองคำอ่อนตัวลงตาม อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้แรงหนุนเมื่อปริมาณเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ ช่วยกระตุ้นความหวังที่ว่านักลงทุนจะกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง โดยกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และวันพุธที่ผ่าน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 3.28 ตัน หลังจากก่อนหน้านี้ทางกองทุนปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย จากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตในปีนี้ในอัตราที่อ่อนแอกว่าปีที่แล้ว และคาดว่าจะเติบโตเร็วขึ้นเพียงเล็กน้อยในปี 2016 สอดคล้องกับ ถ้อยแถลงของนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงในปีนี้ และจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในปีหน้า การคาดการณ์ในทางลบมากกว่าเป็นช่วงหน้าได้กระตุ้นแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลง แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,100-1,097 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,124 หรือ 1,134 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,097 (18,900บาท) 1,088 (18,730บาท) 1,079 (18,570บาท)
แนวต้าน 1,124 (19,350บาท) 1,134 (19,530บาท) 1,143 (19,680บาท)
GOLD FUTURES (GFV15)
แนวรับ 1,097 (19,070บาท) 1,088 (18,920บาท) 1,079 (18,760บาท)
แนวต้าน 1,124 (19,540บาท) 1,134 (19,710บาท) 1,143 (19,870บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148