ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด พร้อมระดมสรรพกำลังเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย – เตรียมรับมือฝนตกหนักในระยะนี้

ข่าวทั่วไป Tuesday October 6, 2015 10:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด 5 อำเภอ ได้แก่ นครสวรรค์ ระยอง ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อีกทั้งได้เน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยในระยะนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 – 5ตุลาคม 2558 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด 5 อำเภอ ดังนี้ จังหวัดนครสวรรค์ น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอไพศาลี อำเภอลาดยาว และอำเภอบรรพตพิสัย ปัจจุบันอำเภอไพศาลี สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนอำเภอลาดยาวและอำเภอบรรพตพิสัย หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน จังหวัดระยอง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านฉาง และอำเภอนิคมพัฒนา หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ ซึ่งปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่พร้อมวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ภัยและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจ ความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่น และฝนตกหนักบางแห่ง อีกทั้งระยะนี้มีฝนสะสมในบางพื้นที่อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย จึงได้เน้นย้ำให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ