KTAM ชู3กองทุนต่างประเทศน่าลงทุน หุ้นยุโรป-เวิลด์พร็อพเพอร์ตี้-หุ้นทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 6, 2015 14:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้นำกองทุนของบริษัทมาพิจารณาผ่านคณะทำงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวางแผนกลยุทธ์ ว่าในแต่ละช่วงเวลามีกองทุนประเภทไหนที่น่าสนใจ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน ในช่วงที่ภาวะหุ้นในประเทศ ยังมีความผันผวน และมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยในเดือนตุลาคมนี้ มี Fund Hilight จำนวน 3 กองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-EURO ) , กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ ( KT-Property ) และกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-WEQ ) โดยกองทุน KT-Euro มีความน่าสนใจเนื่องจาก กองทุนรวมหลัก Templeton Global Fund เน้นกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว และสม่ำเสมอ 3 ประการด้วยกัน ได้แก่ การคำนึงถึงมูลค่าหุ้น มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว และการวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐาน พอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยง โดยการลงทุนในหลักทรัพย์ทั่วโลก และกองทุนรวมหลัก เชื่อว่าสามารถเพิ่มมูลค่าของเงินลงทุนได้มากกว่า จากการลงทุนในบริษัททั่วโลกแทนที่จะจำกัดตัวเองไว้ที่ตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงแห่งเดียว ดังนั้น กองทุนนี้จึงมีการลงทุนทั้งในตลาดที่พัฒนาแล้ว และตลาดที่กำลังพัฒนา ผลตอบแทน ณ วันที่ 25 กันยายน 2558 ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 8.30% เกณฑ์มาตรฐาน ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 10.47% กองทุน KT-Property มีความน่าสนใจ เพราะ เพิ่มโอกาสในการกระจายการลงทุนไปยังอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพโดดเด่น ทั่วโลก กองทุนรวมหลัก Henderson Global Property Equities Fund ลงทุนในหลากหลายประเภทอสังหาริมทรัพย์ผ่านหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง โอกาสรับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากรายได้ค่าเช่า และมูลค่าของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 5.45 % เกณฑ์มาตรฐาน AIMC อยู่ที่ 15.41% กองทุน KT-WEQ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Franklin Templeton Investment ซึ่งเป็นบริษัทจัดการระดับโลก มีทีมงานบริหารที่แข็งแกร่ง โดยกองทุนรวมหลัก เน้นกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว และสม่ำเสมอ โดยคำนึงถึงมูลค่าหุ้น มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว และการวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐาน พอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยง โดยการลงทุนในหลักทรัพย์ทั่วโลก และกองทุนรวมหลัก เชื่อว่าสามารถเพิ่มมูลค่าของเงินลงทุนได้มากกว่า จากการลงทุนในบริษัททั่วโลก แทนที่จะจำกัดตัวเองไว้ที่ตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงแห่งเดียว ดังนั้น กองทุนจึงมีการลงทุนทั้งในตลาดที่พัฒนาแล้ว และตลาดที่กำลังพัฒนา ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับกลาง และต้องการล็อคผลตอบแทนจากการลงทุนในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 43 ( KTFFE 43 ) เสนอขาย วันที่ 7-13 ตุลาคม 2558 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ และเป็นกองทุนที่เสนอขายผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย และผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ( AI ) เงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารต่างประเทศประเภท MTN ที่ออกโดย Banco latinoamericano de Comercio Exterior , S.A.MTN ที่ออกโดย Agricultural Bank of CHINA , Hong Kong Branch , MTN ที่ออกโดย Industrial and Commercial Bank of CHINA (Asia ) Ltd. , เงินฝากประจำ Bank of China ( Macau) ,เงินฝากประจำ Turkiye Garanti Bankasi A.S. และเงินฝากประจำ Yapi Kradi Bankasi ผลตอบแทนประมาณ 1.90 % ต่อปี นอกจากนี้ อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over )ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส3 เดือน1 ( KTSIV3M1 ) เสนอขายถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2558 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก /ตั๋วเงินคลัง / พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วน 32.50 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ประกอบด้วย บมจ.เอเชียเสริมกิจลีสชิ่ง บมจ.บัตรกรุงไทย และบมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ผลตอบแทนประมาณ 1.50 % ต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ