“บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว” กำหนดช่วงราคา IPO 4.90-5.00 บาท พร้อมเปิดจองเดือนตุลาคม - บล.เคจีไอ มั่นใจกระแสตอบรับแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 7, 2015 14:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--IR PLUS "บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว" หรือ LPH กำหนดช่วงราคาขาย IPO ที่ 4.90 - 5.00 บาท ตามผลการสำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) โดยจะสรุปราคาขายที่แน่นอนได้ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนจองซื้อภายในเดือนตุลาคม ด้าน บล.เคจีไอ มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม ขณะที่ผู้บริหารชี้ธุรกิจมีปัจจัยพื้นฐานดี เป็นทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock มีศักยภาพการเติบโตโดดเด่นมั่นคงยั่งยืนจากการขยายต่อยอดธุรกิจ นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงการนำบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทฯ ได้กำหนดช่วงราคา IPO ระหว่าง 4.90-5.00 บาท ตามปัจจัยพื้นฐานและการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต โดยราคาขายสุดท้ายจะอยู่ที่ผลการ Book Build ของนักลงทุนสถาบัน หุ้นจากนักลงทุน (Book Building) ทั้งนี้ราคาดังกล่าวถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน เมื่อพิจารณาผลการดำเนินการในอดีตซึ่งมีความมั่นคงของรายได้และกำไรบวกกับแผนการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจนโดดเด่น ซึ่งจะสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตโดดเด่นในอนาคต ได้แก่ แผนการยกระดับศูนย์การแพทย์เฉพาะทางสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) 5 ศูนย์ คือ ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์ตา ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ และศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์ผิวหนังและความงาม เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มฐานกลุ่มผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลฯ ลูกค้าทั่วไป รวมทั้งรองรับการรักษาโรคที่ซับซ้อนมากขึ้น และจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้นของบริษัทฯในอนาคต นอกจากนี้บริษัทฯยังมีโครงการขยายการลงทุนต่อเนื่องในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ศูนย์การแพทย์ประกันสังคม เพื่อโอกาสในการรับโควต้าที่มากขึ้น ศูนย์พักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ และการสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าวแห่งใหม่ ซึ่งจะมีเตียงให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 180 เตียง ในบริเวณเขตลำลูกกา ซึ่งเป็นเขตที่มีจำนวนประชากรเติบโตสูงและมี หมู่บ้าน ชุมชน โรงงาน จำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นยั่งยืนในอนาคต ซึ่งจากแผนเติบโตดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อค่า P/E ในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปราคาขายหุ้นที่แน่นอนได้ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยจะใช้วิธีสำรวจความต้องการซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันตามช่วงราคาดังกล่าว (Book Building) เพื่อกำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ก่อนเปิดให้นักลงทุนจองซื้อและเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ บล. บมจ. เคจีไอ มั่นใจว่า หุ้น LPH จะได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป จากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำจากความผันผวนของเศรษฐกิจ รวมถึงมีโอกาสเติบโตที่สดใส จากโครงการลงทุนในอนาคตของบริษัทฯ ทั้ง 4 โครงการ ที่สามารถจะสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นและมั่นคง สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งสิ้น 200 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.67 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 375 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและเรียกชำระแล้ว มีจำนวน 275 ล้านบาท คิดเป็น 550 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หุ้นจำนวน 180 หุ้นเสนอขายต่อประชาชน และอีก 20 ล้านหุ้นเสนอขายให้กับกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯที่ราคาเดียวกันกับราคา IPO ทั้งนี้กรรมการและผู้บริหารที่จองซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าว มีความสมัครใจจะนำหุ้นมาฝากเพื่อห้ามขายทั้งจำนวนเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนอีกด้วย ด้านดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว กล่าวว่า ปี 2558 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยการก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งการแผนการขยายธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นและมั่นคงในอนาคต และเชื่อมั่นว่ากรอบราคาหุ้น IPO ที่กำหนดในครั้งนี้มีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์เฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 30 และเมื่อพิจารณาแนวโน้มของการเติบโตของบริษัทฯและบริษัทย่อยและเป้าหมายของบริษัทฯที่จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อปี "ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลมากกว่า 22 ปี เราเชื่อมั่นว่า ในปี 2558 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ LPH ในการก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่าบริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2557 ที่มีรายได้ประมาณ 1,136.57 ล้านบาท และกำไรที่ 99.88 ล้านบาท จากธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่งที่สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ประกอบกับแผนการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพที่จะมาสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งเป้าในการเติบโตในอนาคตไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี และตั้งเป้าเป็นทั้ง Growth Stock และ Dividend โดยกรอบราคาดังกล่าวมีส่วนลดจากราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์เฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 30" ดร. อังกูร กล่าว ส่วนเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำไปลงทุนในโครงการศูนย์ประกันสังคม ศูนย์พักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ และโครงการสร้างโรงพยาบาลแห่งลาดพร้าวใหม่ในเขตลำลูกกา ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระเงินกู้ยืมและเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการของบริษัทฯ สำหรับ บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว มีการประกอบธุรกิจหลักคือ ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน โดย บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว มีการประกอบธุรกิจหลักคือ ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน โดยให้บริการรักษาโรคทั่วไปและศูนย์บริการแพทย์เฉพาะทาง สามารถให้บริการทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยฉุกเฉิน ภายใต้แบรนด์ "โรงพยาบาลลาดพร้าว" โดยมีศักยภาพการให้บริการผู้ป่วยนอกประมาณ 3,400 คนต่อวัน มีเตียงผู้ป่วยใน 180 เตียง โรงพยาบาลมีจุดเด่นด้านแม่และเด็กและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในวงการหลากหลายสาขา และมีการดำเนินการยกระดับศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 5 ศูนย์ นอกจากนี้โรงพยาบาลมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการ ทั้งศูนย์ประกันสังคม ศูนย์พักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ และสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการและขยายฐานลูกค้าในพื้นที่และเขตใกล้เคียง ตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของประชากรในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุและรองรับโรคที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาโรงพยาบาลฯมีลูกค้าที่หลากหลายกระจายทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มประกันคู่สัญญาและกลุ่มลูกค้าประกันสังคม นอกจากนี้บริษัทฯมีบริษัทย่อย คือ AMARC ดำเนินธุรกิจ บริการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบและวิจัยด้านอาหาร ผลิตผลการเกษตรและยา ซึ่งมีมาตราฐานเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญและมีการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาสูง จึงเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งในระดับเดียวกันน้อยราย และมีศักยภาพการเติบโตสูง สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทฯมีรายได้เติบอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555-2557 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 917.43 , 1,063.07 และ 1,136.57 ล้านบาทตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 11.30 และมีกำไรสุทธิ สำหรับปี 2555-2557 เท่ากับ 79.5 ล้านบาท 108.43 ล้านบาท และ 99.88 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับช่วง 6 เดือนแรก ของปี 2558 บริษัทฯ มี รายได้ และ กำไร อยู่ที่ 600.32 ล้านบาท และ 31.92 ล้านบาท ประกอบกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) สิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2558 อยู่ที่ 1.31 เท่า
แท็ก เคจีไอ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ