กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานฝนตกเป็นบริเวณกว้างอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่จากอิทธิพลพายุมูจิแก ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง นครนายก เพชรบูรณ์ และหนองบัวลำภู ซึ่ง ปภ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือโดยด่วน อีกทั้งประสานพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับมือฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2558 ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 10 - 11 ตุลาคม 2558 โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยและน้ำป่าไหลหลาก
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกเป็นบริเวณกว้างอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่จากอิทธิพลพายุมูจิแก ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2558 – ปัจจุบัน ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี กำแพงเพชร นครสวรรค์ ระยอง จันทบุรี ตาก นครนายก เพชรบูรณ์ และหนองบัวลำภู รวม 16 อำเภอ 19 ตำบล 54 หมู่บ้านขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง นครนายก เพชรบูรณ์ และหนองบัวลำภู โดยสถานการณ์ภาพรวมในปัจจุบันมีภาวะฝนตกน้อยลง ระดับน้ำลดลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์และให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจประเมินและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และจากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ร่องมรสุมที่พาดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2558 ส่วนภาคกลางและ ภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 10 - 11 ตุลาคม 2558 จึงได้เน้นย้ำให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากจากฝนที่ตกสะสมในระยะยนี้ โดยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th