SCI แรงทะลุมิติ! ปลุกตลาดหุ้นไอพีโอกลับมาคึกคัก ปิดตลาดราคาแตะ 7.00 บาท ให้ผลตอบแทนกว่า 18.64%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 13, 2015 17:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--IR Network หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง "บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค" (SCI) เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯวันแรกแรงทะลุมิติ ปลุกตลาดหุ้นไอพีโอกลับมาฟื้นคืนชีพ ปิดตลาดราคาพุ่งแตะ 7.00 บาท ให้ผลตอบแทนกว่า 18.64% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 5.90 บาท/หุ้น ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล"พร้อมเดินหน้าร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 45 MW-ขยายการลงทุนในลาว-เมียนมาร์ ตามแผน หนุนรายได้-กำไร ในปี"62 โตก้าวกระโดด ขณะที่ "วิชา โตมานะ" ที่ปรึกษามือฉมัง จากบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันนี้ (13 ตุลาคม 2558) เป็นวันแรก เปิดตลาดที่ระดับ 7.70 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 30.51% จากราคาไอพีโอที่ 5.90 บาท/หุ้น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาปรับตัวสูงสุดที่ 8.30 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 7.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,929.70 ล้านบาท นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง รายได้และกำไรขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าแนวรายได้ในปี 2558 จะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน โดยได้รับประโยชน์จากการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4G และรับรู้รายได้จากการขยายเสาสัญญาณ 3G ที่เข่ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากกรณีที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ประกาศแผน 5 ปี (2558-2562) ลงทุนระบบสายส่งมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 14.42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 143.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน "การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต โดยบริษัทเตรียมนำเงินที่ได้ไปคืนหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า (PDSR) เฟส 2 ในลาว ซึ่งจะเริ่มต้นโครงการได้ประมาณไตรมาส 4/58 ลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในเมียนมาร์ โดยร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ราวไตรมาส 1/59 และลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ร่วมกับพันธมิตร โดย SCI จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 30%"นายเกรียงไกรกล่าวในที่สุด นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นของ SCI ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอ ส่วนหนึ่งมาจากการตั้งราคาขายที่มีความเหมาะสม และปัจจัยพื้นฐานของ SCI ที่มีความแข็งแกร่ง มีการกระจายสัดส่วนรายได้ทั้งในและต่างประเทศในอัตราที่เหมาะสม และแผนการดำเนินธุรกิจที่มีความชัดเจน ทั้งในส่วนของการร่วมทุนโครงการไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิต 45 MW ในประเทศไทย การขยายการลงทุนในเมียนมาร์ และการขยายการลงทุนในลาว ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชีย ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของธุรกิจ รองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่ในอนาคตจะมีการขยายการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของ SCI เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งที่มาของรายได้จากทั้งในและต่างประเทศ "มั่นใจว่านับจากนี้ไปหุ้น SCI จะกลายเป็นดาวดวงใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต โดยคาดว่ารายได้และกำไรของ SCI จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2562 หลังจากเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศไทย โครงการลงทุนในเมียนมาร์ และในสปป.ลาว นอกเหนือจากงานเสาไฟฟ้า เสาโทรมนาคม และตู้รางสวิทซ์บอร์ดและตู้คอนโทรลในประเทศที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแผนการขยายการลงทุน 3 จี และ 4 จีของภาคเอกชน"ในวิชากล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ