ฟอร์ดค้นคว้านวัตกรรมเลียนแบบธรรมชาติโดยใช้ตุ๊กแกเป็นกรณีศึกษา

ข่าวยานยนต์ Tuesday November 17, 2015 14:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ ทีมค้นคว้าวิจัยของฟอร์ดวางแผนศึกษาคุณสมบัติของตีนตุ๊กแกที่มีความเหนียวแน่นสูงเพื่อนำไปพัฒนาสารยึดติดส่วนประกอบของรถยนต์และช่วยเพิ่มโอกาสการรีไซเคิลส่วนประกอบต่างๆ นวัตกรรมเลียนแบบธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า ไบโอมิมิครี (Biomimicry) คือการศึกษาและเลียนแบบสิ่งต่างๆ จากธรรมชาติ เพื่อค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งนวัตกรรมเลียนแบบธรรมชาตินี้คาดว่าจะสามารถพลิกโฉมการออกแบบภายในรถยนต์ฟอร์ดได้ เมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้ร่วมมือกับบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Proctor & Gamble)และสถาบันด้านนวัตกรรมการเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimicry Institute) จัดเวิร์คช็อปด้านนวัตกรรมเลียนแบบธรรมชาติดังกล่าวขึ้นที่สำนักงานเขตเดียร์บอร์น ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เดินหน้าพัฒนาแนวความคิดใหม่ๆ ค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสารที่ใช้ยึดติดชิ้นส่วนภายในรถยนต์ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กแก โดยฟอร์ดได้ทำงานร่วมกับบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ในการค้นคว้าวิจัยดังกล่าว เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการค้นหาแนวทางใหม่ๆ สำหรับธุรกิจด้วยนวัตกรรมเลียนแบบธรรมชาติ ทีมค้นคว้าวิจัยฟอร์ดได้พยายามเสาะหาแนวทางการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีความยั่งยืนมาเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งความท้าทายของเราคือ การพัฒนาสารยึดติดหรือกาวที่ใช้สำหรับเชื่อมวัสดุประเภทโฟมให้เข้ากับพลาสติกและโลหะ เนื่องจากสารยึดติดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันทำให้วัสดุไม่สามารถแยกออกจากกันเพื่อนำไปรีไซเคิลต่อได้ แนวความคิดจากตุ๊กแก ผิวหนังบริเวณใต้เท้าของตุ๊กแกสามารถเกาะติดได้แทบทุกพื้นผิวโดยไม่ต้องอาศัยของเหลวหรือแรงตึงผิวใดๆ และสัตว์เลื้อยคลานจำพวกนี้ก็ยังสามารถเคลื่อนย้ายร่างกายโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ด้วย นอกจากนี้ ตุ๊กแกซึ่งโตเต็มวัยและมีน้ำหนักประมาณ 2.5 ออนซ์ ยังสามารถแบกรับน้ำหนักได้ถึง 293 ปอนด์ "แรงบันดาลใจจากตุ๊กแกในการคิดค้นนวัตกรรมสารยึดติดให้กับฟอร์ดนี้ น่าจะทำให้เราสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ได้ทั่วโลก" เดบบี้ มีเลฟสกี หัวหน้าอาวุโสฝ่ายเทคนิคสำหรับพลาสติกและการค้นคว้าวิจัยเพื่อความยั่งยืนของฟอร์ด กล่าว "การพัฒนาสารยึดติดแบบใหม่จะช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม" มีเลฟสกีกล่าวเสริม"อีกทั้งยังช่วยให้เราเพิ่มอัตราการรีไซเคิลให้กับพลาสติกและโฟม ซึ่งจะช่วยลดรอยเท้าในเรื่องสิ่งแวดล้อม(Environmental Footprint) ได้อีกด้วย" หลังจากที่ฟอร์ดได้รับแรงบันดาลใจในเรื่องแนวคิดนวัตกรรมเลียนแบบธรรมชาตินี้ จึงได้จัดการอภิปรายเรื่องดังกล่าวขึ้นที่สำนักงานเขตเดียร์บอร์น โดยร่วมกับบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิลและสถาบันด้านนวัตกรรมการเลียนแบบธรรมชาติซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการค้นคว้าอ้างอิงจากวิถีทางธรรมชาติ พร้อมมองหาแนวทางที่สามารถตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ ในยุคปัจจุบันได้อย่างยั่งยืน ทีมนักค้นคว้าวิจัยและนักออกแบบจำนวนเกือบ 200 ท่านได้เข้าร่วมการประชุมที่ยาวนานถึงหนึ่งวัน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมการลอกเลียนแบบจากธรรมชาติและศึกษากลวิธีเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานของตน "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการอภิปรายครั้งนี้กับฟอร์ด โดยฟอร์ดและเราได้ร่วมมือกันมาอย่างยาวนานในการจัดเวิร์คช็อปร่วมกับสถาบันด้านนวัตกรรมการเลียนแบบธรรมชาติ" ลี แอลเลน เดรชสเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการติดต่อและพัฒนาองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล คัมปะนี กล่าว "พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล มีความสนใจในการศึกษาและประยุกต์ใช้แนวคิดการเลียนแบบธรรมชาติเพื่อขยายหนทางในการแก้ไขปัญหาอันแสนท้าทายที่เกิดขึ้นในระหว่างการค้นคว้าวิจัยต่างๆ ของเรา" "แนวคิดการลอกเลียนแบบธรรมชาตินั้นไม่ใช่สิ่งใหม่ รถไฟความเร็วสูงซินคันเซ็นในประเทศญี่ปุ่นเองก็ได้รับแรงบันดาลใจจากนกกระเต็น แถบตีนตุ๊กแกก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมล็ดพืชมีหนามที่มักติดมาตามเสื้อผ้า เข็มฉีดยาที่ใช้ทางการแพทย์ก็ได้รับการพัฒนามาจากยุง ความสนใจแนวคิดด้านนี้มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประกอบกับความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่พุ่งสูงขึ้น" เกร็ทเชน ฮุกเกอร์ ผู้จัดการโครงการความท้าทายด้านการออกแบบที่สถาบันด้านนวัตกรรมการลอกเลียนแบบจากธรรมชาติ กล่าว สถาบันด้านนวัตกรรมการเลียนแบบธรรมชาติก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2549 ด้วยความมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้ผู้คนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และการบริการที่ยั่งยืนโดยอาศัยนวัตกรรมการเลียนแบบธรรมชาติ สถาบันดังกล่าวนี้นอกจากจะช่วยสนับสนุนด้านความรู้ และการส่งผู้ชำนาญไปตามเครือข่ายสากลของสถาบันแล้ว ยังได้ช่วยจัดเตรียมแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้และฝึกฝนด้านการเลียนแบบธรรมชาติผ่านความท้าทายการออกแบบที่หลากหลายเหล่านี้รวมถึงนวัตกรรมแบบเปิดหรือการเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ การร่วมมือขององค์กรและภาคการศึกษา และกิจกรรมท้าทายให้กับพนักงานและองค์กร โดยการจัดการฝึกอบรมควบคู่ไปกับการพัฒนาเพื่อค้นหาแนวทางใหม่ๆ สำหรับใช้แก้ไขปัญหาที่องค์กรกำลังประสบอยู่ เว็บไซต์ AskNature.org ซึ่งเป็นฐานข้อมูลออนไลน์ของกลุ่มค้นหาแนวทางโดยอ้างอิงจากข้อมูลทางด้านชีววิทยานี้ได้สร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่มองหาคำตอบด้านนวัตกรรมการเลียนแบบธรรมชาติอีกด้วย "ฟอร์ด และ พี แอนด์ จี เป็นบริษัทแรกๆ ที่ร่วมสร้างความท้าทายใหม่กับทั้งพนักงานและองค์กร" ฮุกเกอร์ กล่าว นอกเหนือจากการรีไซเคิลแล้ว ทีมนักออกแบบฟอร์ดยังได้พยายามค้นคว้ามานานกว่าทศวรรษเพื่อคิดค้นเทคโนโลยีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และความสำเร็จล่าสุดที่ได้คือ การผลิตเส้นด้ายสำหรับวัสดุเบาะรถและผ้าคลุมเพดานด้านในรถ ฟอร์ดเป็นบริษัทผลิตรถยนต์เพียงแห่งเดียวที่นำไฟเบอร์ตระกูล REPREVE คุณภาพสูงจากบริษัท ยูนิฟาย (Unifi) มาใช้ในรถยนต์ โดยวัสดุทั้งหมดนี้ทำมาจากผลิตภัณฑ์รีไซเคิลรวมถึงขวดพลาสติก ฟอร์ดได้ใช้ไฟเบอร์ตระกูลREPREVE สำหรับการผลิตรถยนต์ทั่วโลกรวม 5 รุ่น ได้แก่ ฟอร์ด เอฟ-150 ฟอร์ด เอ็กซ์พลอเรอร์ ฟอร์ด เอดจ์ ฟอร์ด โฟกัส อิเล็คทริค และฟอร์ด ฟิวชั่น การเลือกใช้ไฟเบอร์ตระกูล REPREVE นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการช่วยลดปริมาณ และลดอัตราการใช้วัสดุ และการช่วยรีไซเคิลชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ สิ่งเหล่านี้นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทรถยนต์ทั่วโลกในการร่วมกันลดรอยเท้าทางนิเวศน์ "ทีมนักออกแบบฟอร์ดกำลังมองหาแนวทางในการขยายเจตนารมณ์ที่จะศึกษาสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติและนำมาพัฒนาวัสดุที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมรถยนต์ การศึกษาข้อมูลจากตุ๊กแกอาจสร้างแรงบันดาลใจด้านเทคโนโลยีวัสดุผ้า และอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงการออกแบบห้องโดยสารภายในของฟอร์ดได้ต่อไป" เหล่านักวิจัยกล่าว "ขณะที่เราสานต่อความมุ่งมั่นในการลดอัตราการเกิดรอยเท้าในระบบนิเวศน์ การประยุกต์ใช้แนวทางแบบองค์รวมและการเลียนแบบธรรมชาตินี้เป็นแนวทางที่ประโยชน์อย่างมาก เพราะธรรมชาติทำให้การออกแบบเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสิ้นเปลืองทรัพยากรในปริมาณที่น้อยที่สุด" คารอล คอร์ดิช เจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์โครงสร้างยั่งยืนและการพัฒนาสากลที่ฟอร์ด กล่าว "ธรรมชาติคือคู่มือสำหรับการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ที่สุด"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ