กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,066.00-1,072.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,400 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.56 น.ของวันที่ 18/11/15)
แนวโน้มวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558
เหตุโจมตีกรุงปารีสอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซนและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นในเดือนหน้า การคาดการณ์ดังกล่าว กดดันสกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งบดบังแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและฉุดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง ทั้งนี้ การโจมตีในฝรั่งเศสส่งผลกระทบต่อทางจิตวิทยาซึ่งกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยร่วมทั้งชะลอการอุปโภคบริโภค ประกอบกับความกังวลว่าการขยายตัวของการก่อการร้ายกำลังเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจยูโซน เมื่อเครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ 2 ลำที่ออกจากสหรัฐได้เปลี่ยนเส้นทางบิน หลังจากถูกขู่วางระเบิด ซึ่งได้สะท้อนปัญหาได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลระหว่างเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ถูกยกเลิกก่อนการเริ่มการแข่งขัน 2 ชั่วโมงเช่นกัน ความวิตกเกี่ยวกับแผนการวางระเบิดทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่าอีซีบี จะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น โดยราคาอ่อนตัวลงสร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบปีอย่างต่อเนื่อง และทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ทั้งนี้ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ หนุนแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ดันดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนเมษายน โดยนักลงทุนเตรียมตัวรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งราคาทองคำร่วงลง 14 วันในรอบ 15 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ที่อ่อนค่าทดสอบระดับ 36.07 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2558 เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นและพันธบัตรไทยได้ชะลอการอ่อนตัวลงของราคาทองคำภายในประเทศให้น้อยกว่าการอ่อนตัวลงของราคาทองคำ แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้หาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงไปและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,064-1,062 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,075-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำอาจจะอ่อนตัวลงอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,075-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,064-1,062 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,062 (18,070บาท) 1,050 (17,860บาท) 1,040 (17,690บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,380บาท) 1,093 (18,600บาท) 1,102 (18,750บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,062 (18,230บาท) 1,050 (18,020บาท) 1,040 (17,850บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,540บาท) 1,093 (18,760บาท) 1,102 (18,910บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148