แคมป์สร้างสรรค์ กรุงไทยต้นกล้าสีขาว 58 ติวเข้มเตรียมพร้อมน้องๆ เด็กมหา’ลัย ก่อนชิงชัยรอบไฟนอล

ข่าวทั่วไป Friday November 20, 2015 12:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--มายแบรนด์ เอเจนซี่ ความสำเร็จไม่ได้มาเพราะโชค หรือ ฟลุ้ค แต่เกิดขึ้นจากความตั้งใจ จริงจัง และความพยายาม กว่า 9 ปีแล้วที่โครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวได้ผลิตบุคลากรที่มีความสามารถและมีศักยภาพให้กับสังคมไทย จากการส่งเสริมให้นักศึกษาได้คิดค้นแผนธุรกิจเพื่อชุมชนโดยยึดเอาแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ทำให้หลายชุมชนเข้มแข็งและสามารถยืนด้วยตัวเองและรอดพ้นความยากจนได้ โครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาว "ช่วยเหลือชุมชน สร้างคนสร้างชีวิต ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง" ถือเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี ทุกสาขา ทุกชั้นปี ทุกสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมมากที่สุดและถือเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมในระยะยาว เพราะเป็นการสร้างทุนปัญญาให้กับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวความคิดในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ภายใต้แนวความคิดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการจัดการที่ยั่งยืน สามารถบูรณาการความรู้ ประสบการณ์และทัศนคติที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงในการประกอบอาชีพ ตลอดจนได้ค้นพบศักยภาพของตนเอง โดยธนาคารจะคัดเลือกทีมที่มีผลการดำเนินธุรกิจที่ดีและน่าสนใจจำนวน 40 ทีมผ่านเข้ารอบเพื่อเวิร์กชอปและฝึกฝนทักษะด้านต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงพัฒนาโครงการที่ทำอยู่ โดยมีทีมวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความรู้ ทั้งเรื่องของหลักเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินงานด้านบัญชี การทำโปรเตอร์เพื่อประกอบโครงการ การนำเสนอผลงาน รวมไปถึงการวางแผนธุรกิจ โดยน้องๆทั้ง 40 ทีม กว่า 200 คนจะมาใช้ชีวิตร่วมกันทั้งหมด 4 วัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปดำเนินโครงการต่อและนำเสนอผลความคืบหน้าการดำเนินแผนธุรกิจเพื่อคัดให้เหลือจำนวน 10 ทีมสุดท้ายตัดสินรอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และโอกาสศึกษาดูงาน Take Course English for Business ณ ประเทศออสเตรเลีย 2 สัปดาห์ พร้อมทุนการศึกษามูลค่ากว่า 3,000,000 บาท นายพลพัฒน์ เกตุศิริ น้องต้นน้ำ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เล่าให้ฟังหลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปว่า สำหรับโครงการของกลุ่มที่ทำเรียกว่าโครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นอยู่บ้านกึ่งวิถีชาย ซึ่งเป็นบ้านที่ดูแลผู้ป่วยทางจิตที่ผ่านการบำบัดและทุเลาแล้ว ซึ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้จาการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้คือเรื่องของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่โครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวให้มีการเรียนรู้ ทั้งเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ รวมถึงเรื่องของการทำโครงการต่างๆ ในระดับของการเงิน การทำบัญชี และวิธีการทำคลิปวิดีโอ รวมถึงการนำเสนอโปสเตอร์เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ของกลุ่มให้กับบุคคลที่ไม่รู้จักโครงการได้รับรู้เกี่ยวกับโครงการที่ทำ ส่วนประโยชน์ที่จะนำไปใช้ในการทำโครงการนี้นั้นทำให้ตนและเพื่อนสามารถนำความรู้ที่ได้มาต่อเติมความคิด นอกเหนือจากความรู้ที่ได้รับห้องเรียน อีกทั้งยังนำความรู้ต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้การทำธุรกิจอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม "ที่ชอบก็จะเป็นเรื่องของการระดมความคิดในกลุ่ม เนื่องจากมีเพื่อนที่มาจากหลากหลายสถาบัน ซึ่งแต่ละคนก็มีศักยภาพและความสามารถที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนที่มาจากภูมิภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี และทัศนคติที่ดีของแต่ละคนอีกด้วย การเข้าร่วมโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งโครงการต้นกล้าสีขาวทำให้ได้นำความรู้ที่เรียนมานำมาบูรณาการคืนสู่สังคม สุดท้ายอยากจะฝากถึงเพื่อนๆ หากเพื่อนคนใดที่มีความสามารถหรือมีแนวคิดที่ดีมีความต้องการต่อยอด หรือริเริ่มพัฒนาโครงการต่างๆที่เกี่ยวกับชุมชน รวมถึงสิ่งที่เราสนใจก็สามารถเข้าร่วมโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวได้ทุกปี ซึ่งจะทำให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ และยังได้รู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้คนไทยทุกคน" ด้านน้องฟิล์ม นางสาวรัชนีกร แลสันกลาง ทีมกบอ๊บอ๊บ ตัวแทนจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยเกี่ยวกับแผนธุรกิจที่ทำว่า ทีมมีแนวคิดที่จะทำแผนธุรกิจเกี่ยวกับการเลี้ยงกบ ซึ่งจะดำเนินการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีตัวแทนในการรับซื้อกบที่มีการเพาะเลี้ยงไปจำหน่ายต่อยังต่างประเทศ จึงมีแนวคิดทำโครงการเพาะเลี้ยงกบจำหน่ายขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีรายได้จากการเพาะเลี้ยงกบส่งออก สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปในครั้งนี้ทำให้ตนเองและเพื่อนในกลุ่มได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการจัดทำโปสเตอร์และ แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวฯ รวมถึงแนวทางในการจัดทำวีดีโอเสนอโครงการ โดยจะมีการนำความรู้ที่ได้รับการจากเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอป โดยเฉพาะแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนำไปปรับใช้ในชุมชนต่อไป "ประสบการณ์ที่มีค่าในครั้งนี้ทำให้ได้สานสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนต่างสถาบัน และทำให้มีเพื่อนใหม่เพิ่มมากขึ้นจากหลากหลายจังหวัด หลากหลายสถาบัน ซึ่งการเข้าร่วมโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของตนและเพื่อนๆ ซึ่งโครงการดังกล่าวทำให้ตนได้เพื่อน ได้เรียนรู้หลักการต่างๆในการทำแผนธุรกิจและหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เราสามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาชุมชนให้ดียิ่งขึ้น สุดท้ายอยากจะฝากถึงเพื่อนๆ หากคิดอยากจะทำอะไรแล้วก็ทำให้สำเร็จ โครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวถือว่าเป็นโครงการที่ดีส่งเสริมเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง" ส่วนนางสาวเบญจพร อุดรศักดิ์ ตัวแทนจากทีมด้วยรักและผักหวาน มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมเพระเกียรติ สกลนคร บอกว่า แผนธุรกิจที่กลุ่มคิดจะทำนั้นคือการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการเพิ่มปริมาณผักหวานป่า เนื่องจากผักหวานป่าเป็นพืชท้องถิ่นที่เหลือน้อย อีกทั้งชาวบ้านไม่นิยมที่จะปลูก เนื่องจากประสบปัญหาการเพาะปลูก ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปในครั้งนี้เดิมทีคิดว่าทางธนาคารจะมีแผนเฉพาะการทำธุรกิจและเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่เข้าร่วมโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาว และมาเข้าค่ายในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้ถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ได้เรียนรู้หลักการและแนวทางการนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนการที่จะมาใช้ประโยชน์อย่างไรนั้นจะต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน โดยจะเริ่มจากการปลูกฝังความนิยมให้กับคนในชุมชนถึงการมองหาความสุขที่มีอยู่ในชุมชน และมีการส่งเสริมสิ่งที่มีอยู่ด้วยภูมิปัญญาความรู้ ความร่วมแรงร่วมใจ ส่วนองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าค่ายในครั้งนี้ เบญจพรบอกว่า เป็นเรื่องของการตัดต่อและการออกแบบ สามารถนำไปพัฒนาปรับปรุงทีมเพื่อใช้ในการแข่งขันรอบสุดท้าย และยังทำให้เรารู้จักเรื่องของการรักษาเวลา การตรงต่อเวลา การทำงานภายในเวลาที่จำกัด และการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับคนอื่นที่มาจากหลากหลายพื้นที่ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยยังได้ให้ความรู้หลายๆด้านไม่ใช่เพียงจะมุ่งเรื่องของธุรกิจเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเรื่องของวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ข้อคิดต่างๆ รวมถึงหลักแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้จากกิจกรรมกรุงไทยต้นกล้าสีขาว หวังอย่างยิ่งว่านอกเหนือจากกิจกรรมที่เด็กๆ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำขึ้นมาเพื่อพัฒนาแผนธุรกิจและชุมชนจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุนทางปัญญาที่ทางธนาคารได้มอบให้ และเมื่อต้นกล้าเหล่านี้เติบใหญ่ อนาคตของสังคมเราก็คงจะมีบุคลากรที่มีศักยภาพและความสามารถอยู่สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสังคมต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ