กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ขยายแผน "อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" ให้กับเยาวชนภาคใต้ ล่าสุดเดินหน้าส่งมอบโครงการฯ ให้แก่ โรงเรียนบ้านปากพู่ (รองหงส์ทองรัฐรังสรรค์) อ.กะปง จ.พังงา ส่งท้ายปี 2558 เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงอาหารและการสร้างภาวะโภชนาการที่ดีเพื่อให้เกิดการบริโภคอย่างยั่งยืน
โครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" 60 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา เป็นความร่วมมือระหว่างซีพีเอฟกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงอาหารและสร้างเสริมโภชนาการที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนไทยผ่านการดำเนินกิจกรรมที่ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ การสนับสนุนการผลิตอาหาร การพัฒนาระบบสุขาภิบาลอาหาร การให้ความรู้ด้านคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และอื่นๆ แก่โรงเรียนนำร่องจำนวน 67 แห่งทั่วประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณรอบโรงงานและฟาร์มของบริษัท นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการฯ เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทยอยส่งมอบโครงการฯ ให้กับโรงเรียนนำร่องทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ล่าสุดส่งมอบให้แก่โรงเรียนบ้านปากพู่ อ.กะปง จ.พังงา ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมปีที่ 3 มีนักเรียนอยู่กว่า 180 คน
นายสันทัด ทองเต็ม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวในพิธีส่งมอบโครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" แก่โรงเรียนบ้านปากพู่ (รองหงส์ทองรัฐรังสรรค์) ว่า บริษัทฯ ให้การสนับสนุนสร้างศูนย์การเรียนรู้ ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนบ้านปากพู่มีแหล่งผลิตวัตถุดิบสำหรับใช้ประกอบอาหารกลางวันให้แก่นักเรียน ได้แก่ แปลงปลูกผักรักษ์สุขภาพ บ่อเลี้ยงปลาและปลาดุกบิ๊กอุย 1,500 ตัว โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันพร้อมแม่ไก่ 100 ตัว และโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้าและสนับสนุนเชื้อเห็ดอีก 1,000 ก้อน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตอาหารที่ได้มาตรฐานปลอดภัยสู่โรงเรียน ช่วยทำให้โรงเรียนมีวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันอย่างเพียงพอ เด็กและเยาวชนได้บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของร่างกายและสมองตามวัย
"นอกจากการส่งเสริมการเข้าถึงอาหารให้กับเยาวชนไทยแล้ว โครงการฯ ยังต่อยอดไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตร และการแปรรูปอาหาร เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงตนเองหลังจากจบการศึกษาได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน โรงเรียนยังสามารถนำผลิตภัณฑ์ทั้งปลา ไข่ เห็ด ที่เหลือใช้ และอาหารแปรรูปนำไปขายให้กับชุมชน ซึ่งโรงเรียนสามารถนำมาใช้เป็นทุนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่อไป" นายสันทัด กล่าว
นายนิจกานต์ แตงเหมาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากพู่ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินโครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มและต่อยอดการยกระดับภาวะโภชนาการที่ดี และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ เพื่อช่วยให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีสุขอนามัยที่ดี ร่างกายแข็งแรง และพร้อมสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาด้านร่างกายและสติปัญญา เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในระยะยาว
นอกจากนี้ซีพีเอฟยังสนับสนุนโรงเรียนบ้านปากพู่ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ของโรงเรียนให้มีความเป็นระเบียบ สวยงามและปลอดภัยต่อนักเรียน รวมทั้งปรับปรุงสนามเด็กเล่นปฐมวัยสร้างพัฒนาการที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ และลานสุขภาพสำหรับนักเรียนและชาวบ้านในชุมชนใกล้โรงเรียนได้มีพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และในพิธีส่งมอบโครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" แก่โรงเรียนบ้านปากพู่ ซีพีเอฟยังได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 20 คน และมอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนอีกด้วย
โครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" เป็นโครงการที่ต่อยอดจากโครงการ "เลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" ที่ซีพีเอฟสนับสนุนองค์ความรู้การเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้โรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศสามารถผลิตไข่ไก่เพื่อเป็นอาหารกลางวัน เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้รับประทานไข่อย่างน้อยคนละ 3 ฟองต่อสัปดาห์ ทั้งยังเป็นการสานต่อโครงการ "จากฟาร์มพี่ สู่โรงเรียนน้อง" ที่บริษัทได้สนับสนุนการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนของโรงเรียนบ้านปากพู่