ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยราคาโครงการที่อยู่อาศัยระดับซุปเปอร์ไพร์มในภูเก็ตพุ่งสูงขึ้นกว่า 120 เปอร์เซนต์

ข่าวอสังหา Tuesday November 24, 2015 14:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ คุณริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าราคาของโครงการที่อยู่อาศัยระดับซุปเปอร์ไพร์มในภูเก็ตที่เปิดตัวในปี 2015 อยู่ที่ระหว่าง 7.5 - 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อยูนิต ในขณะที่ราคาขายต่ออยู่ที่ 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อยูนิตในปีนี้ ราคาของโครงการซุปเปอร์ไพร์มใหม่ๆ ได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 120% เมื่อเทียบกับราคาของโครงการในระดับเดียวกันซึ่งเปิดตัวในระหว่างปี 2007 และปี 2011 ผลการวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทยระบุว่าไม่มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับซุปเปอร์ไพร์มเปิดตัวช่วงปี 2012 ถึงปี 2014 ในภูเก็ต อย่างไรก็ตาม ราคาขายของโครงการซุปเปอร์ไพร์มที่เปิดตัวระหว่างปี 2007 ถึงปี 2011 และยังคงเปิดขายอยู่ในปี 2014 มีราคาขายอยู่ที่ 3 -7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อยูนิต ตารางที่ 1: ราคาขายของโครงการซุปเปอร์ไพร์มในภูเก็ต Project Name Launched Unit Selling Price (Million THB ) Unit Selling Price** (Million USD) ชื่อโครงการ เปิดตัวปี ราคาขายต่อยูนิต(ล้านบาท) ราคาขายต่อยูนิต**(ล้านเหรียญสหรัฐ) Andara Signature 2011 192-250 5-7 Amanpuri Phase II 2011 208-350 5.8-9.8 Banyan Tree 2008 100-125 2.8-3.5 Malaiwana 2006 99.5-128.5 2.7-3.5 Istana* 2007 127.5-253.5 3-7 The Estate at Mont Azure 2015 266-532 7.5-15 Avadina Hills 2015 355 10 * โครงการถูกระงับ ** ราคาข้างต้นเป็นราคาขายจากนักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นราคาพิเศษเฉพาะของทรัพย์สินที่นำมาขายใหม่ ที่มา: บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด คุณริษิณี กล่าวว่ากลุ่มผู้ซื้อโครงการซุปเปอร์ไพร์มในภูเก็ต ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติในแถบเอเชีย โดยเฉพาะชาวฮ่องกง สิงคโปร์และเซี่ยงไฮ้ ส่วนใหญ่ผู้ซื้อกลุ่มนี้ได้อาศัยและทำงานอยู่ในภูมิภาคนี้มานานหลายปีและรู้จักคุ้นเคยกับจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดีจากการใช้เวลาพักผ่อนวันหยุด นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และแคนาดา และเอเชีย ที่เป็นกลุ่มผู้ซื้อรายใหม่ ซึ่งมักซื้อโครงการซุปเปอร์ไพร์มในภูเก็ตไว้เป็นบ้านหลังที่สอง หรือเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหรือเพื่อการอยู่อาศัยหลังเกษียณ ผู้ซื้อกลุ่มนี้ยังลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในหลายๆ แห่งทั่วโลก ลูกค้ากลุ่มนี้มักอาศัยความพึงพอใจและผลตอบสนองทางด้านอารมณ์และความรู้สึก ความคุ้นเคยกับทำเล รวมทั้งต้องการเยี่ยมชมโครงการ ก่อนตัดสินใจ ซึ่งอาจมีผลทำให้ช่วงเวลาการซื้อขายนั้นอาจยาวนานบ้างแล้วแต่กรณี คุณริษิณี กล่าวเพิ่มเติมว่าโดยเฉลี่ยแล้วขั้นตอนการขายตั้งแต่ต้นจนจบ ของโครงการระดับซุปเปอร์ไพร์มในภูเก็ตมักใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี ปัจจัยสำคัญในการขายคือ สถานที่ตั้ง ทำเล ทัศนียภาพโดยรอบ สภาพแวดล้อม และโครงการที่พัฒนาในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับสุดหรูในจังหวัดภูเก็ต มักเป็นโครงการวิลล่าที่มีราคาขายกว่า 100 ล้านบาทต่อหน่วย ส่วนใหญ่เป็นวิลล่าที่อยู่ติดริมทะเล และมีการบริหารจัดการโดยเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก วิลล่าในประเภทนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วยอย่างน้อย 4 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางสำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหารและเพื่อความบันเทิง พร้อมกันนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันระดับโลก เช่น ห้องออกกำลังกายส่วนตัว สปาและสระว่ายน้ำส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 1,000 ตารางเมตรบนพื้นที่กว่า 2 ไร่ (หรือ 3,200 ตารางเมตร) ของที่ดิน นอกจากนี้วิลล่าเหล่านี้ยังมีมาตรฐานการก่อสร้างอันดีเยี่ยม โดยใช้วัสดุ สเปค และรูปแบบการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้อยู่อศัยและการตกแต่งระดับพรีเมี่ยม
แท็ก สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ