กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--รีจัส ประเทศไทย
รีจัสเผยผลวิจัยเกี่ยวกับทิศทางการจ้างงานในวงธุรกิจเริ่มเห็นการกลับมาว่าจ้างคุณแม่มือใหม่สู่การทำงานคิดเป็นร้อยละ 26 ซึ่งสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากการสำรวจนักธุรกิจอาวุโส 44,000 คนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก คุณแม่มือใหม่เหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อ GDP ของประเทศ โดยเป็นฐานแรงงานสร้างศักยภาพการเติบโตได้ดี แต่บทบาทความรับผิดชอบในฐานะแม่และผู้หญิงทำงานถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ดังนั้นผู้หญิงจึงจำเป็นต้องเลือกที่จะพักการทำงานเพื่อดูแลบุตร อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารส่วนมากสนใจที่จะดึงดูดกลุ่มคุณแม่มือใหม่เหล่านี้กลับเข้าวงการ โดยร้อยละ 83 เชื่อว่ารูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นจะเป็นกุญแจสำคัญ เพราะพนักงานที่เป็นแม่มีประสบการณ์การทำงาน เชี่ยวชาญทักษะงานด้านต่างๆ ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้ และที่สำคัญสามารถบริหารจัดการเวลาได้ดีอีกด้วย บรรดานายจ้างทั้งหลายมองว่าคุณแม่เหล่านี้มักไม่นิยมเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น บริษัทจึงวางใจได้หากต้องยอมลงทุนในเรื่องของการจัดฝึกอบรม และดูแลวางแผนสวัสดิการ งานสำรวจก่อนหน้านี้ของรีจัสชี้ด้วยว่า ร้อยละ 57 ขององค์กรธุรกิจมองว่าการดูแลว่าจ้างพนักงานคุณแม่เหล่านี้ช่วยยกระดับผลงาน ในขณะเดียวกันก็ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนไปกับการฝึกพนักงานที่เข้ามาใหม่
ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับพนักงานที่เป็น "แม่" มีดังนี้:
• องค์กรบริษัทมากกว่าหนึ่งในสี่ของการสำรวจปี 2558 ยืนยันว่าต้องการว่าจ้างคุณแม่กลับมาเป็นพนักงานอีก
• คุณแม่ที่หวนคืนสู่วงการนั้น ร้อยละ 55 เชื่อว่ามาพร้อมประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและทักษะ โดยร้อยละ 30 มองว่าเป็นพนักงานที่ไว้วางใจได้ และกว่าร้อยละ 31 เห็นว่ามีทักษะด้านการจัดการดีกว่าพนักงานอื่นๆ ทั่วไป
• ร้อยละ 23 มองว่าคุณแม่หวนคืนวงการเหล่านี้เป็นผู้ทำงานหนัก และมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อผู้อื่น เพื่อนร่วมงานมากกว่าคนอื่น
• ร้อยละ 28 ของมืออาชีพในวงการทำงานทั่วโลกต่างยกย่องความทะเยอทะยานในการพิสูจน์ความสามารถในการทำงานของเหล่าคุณแม่เหล่านี้
คุณคริสทอฟ โฮดัป กรรมการผู้จัดการ รีจัส ประเทศไทย กล่วว่า "คุณแม่ใหม่เหล่านี้ถือเป็นแหล่งบุคลากรมากศักยภาพ ประสบการณ์การทำงานสูงที่น่าจะเป็นทีมงานที่ดีได้ แต่ติดเรื่องของครอบครัวเท่านั้นเอง ดังนั้น การทำงานที่ให้ความคล่องตัว ยืดหยุ่นในการจัดการอาจเปิดโอกาสที่จะดึงเอาคนเหล่านี้มาเป็นกำลังเสริมให้แก่องค์กร ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับนั้นชัดเจนมาก อาทิ ลดอัตราการลาออกของพนักงาน ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างและฝึกอบรมน้อยลง และมีพนักงานที่มีพรสวรรค์ โดยองค์กรนำเสนอว่า ต้องให้ข้อเสนอที่น่าสนใจ ยืดหยุ่นในการทำงานแก่บุคลากรกลุ่มนี้เพื่อดึงดูดใจอาทิ สถานที่ทำงานไม่ไกลจากบ้านหรือที่พักเกินไป รีจัส ผู้นำด้านออฟฟิศสำเร็จรูปและมีสาขามากที่สุดในโลกถึง 2,500 สาขา โดยมี 16 สาขาในกรุงเทพฯ และ 1 สาขาที่แหลมฉบัง มอบโซลูชั่นการทำงานแบบยืดหยุ่นสำหรับออฟฟิศ Co-working และออฟฟิศเสมือน ไม่ต้องทำสัญญาเช่าระยะยาว และมีทำเลใกล้กับบีทีเอสและเอ็มอาร์ที จึงสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทาง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สำนักงาน และพนักงานต้อนรับส่วนหน้าให้ธุรกิจสามารถเริ่มได้ทันที โดยไม่ต้องมีเงินลงทุนก้อนใหญ่ในการเปิดออฟฟิศ คุณจึงสามารถดีไซน์รูปแบบการทำงานในแบบของตัวเองได้ง่ายๆ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.regus.co.th)
"มีรายงานชี้ว่าจำนวนผู้หญิงในวัยทำงานนั้นมีอัตราส่วนเท่ากับผู้ชายที่มีผลต่อ GDP ของประเทศคิดเป็น ร้อยละ10 หรืออาจจะมากกว่า ดังนั้น กรณีการเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญในการดึงบุคลากรกลุ่มนี้เข้าสู่วงการ และถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจต้องหันกลับมาพิจารณาประเด็นความยืดหยุ่น และสถานที่ทำงานกันอย่างจริงจังหากต้องการได้กลุ่มคนทำงานที่มากศักยภาพ และมีความเป็นไปได้สูงเช่นกลุ่มคุณแม่วัยทำงานเหล่านี้"
เกี่ยวกับรีจัส
รีจัส เป็นผู้นำด้านการให้บริการเช่าพื้นที่สำนักงานชั้นนำระดับโลก สาขาของรีจัสมีอยู่ทุกที่ทั่วโลกกว่า 2,500 แห่งใน 106 ประเทศ มอบความสะดวกสบายในการทำงานจากออฟฟิศที่มาพร้อมบริการและอุปกรณ์ครบครัน สามารถเลือกใช้ได้แม้ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาทีหรือแบบรายปี บริษัทชั้นนำอย่าง กูเกิ้ล (Google) โตชิบา (Toshiba) และกล๊าสโซสมิทธไคลน์ (GlaxoSmithKline) ล้วนวางใจให้รีจัสมอบทางออกในการทำงานที่ยืดหยุ่น นำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจที่ยิ่งขึ้นไปอีก
รีจัสเชื่อว่าความยืดหยุ่นคือกุญแจแห่งความสำเร็จ จึงสนับสนุนให้สมาชิกกว่า 2.1 ล้านคนทั่วโลกทำงานได้ทุกที่และทุกเวลา ไม่ว่าจะจากใจกลางเมือง นอกเมือง ช้อปปิ้งมอลล์ ศูนย์การค้า สถานีรถไฟ จุดพักรถ และคอมมิวตี้มอลล์ต่างๆ รีจัสก่อตั้งขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2532 ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม สำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศลักซัมเบิร์ก และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.regus.co.th