กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--ม.จุฬาฯ
หัวหน้าโครงการวิจัยส่งเสริมสุขภาพทางเพศ ฯ ชี้การเลี้ยงดูในวัยเด็กมีผลต่อพฤติกรรมทางเพศ ยกจัน ดารา เป็นตัวอย่าง พร้อมเผยจุฬาฯ เตรียมเปิดหลักสูตรปริญญาโทเพศศาสตร์ศึกษา นับเป็นแห่งแรกในเอเชีย หวังว่านำไปสู่การช่วยกระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงสาธารณสุข ให้คนมาเรียนแล้วนำไปสอนเพศศึกษาอย่างถูกต้อง
ในการเสวนาเรื่อง “จัน ดารา กับเพศศึกษาในสังคมไทย” ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่ ห้องประชุม ๑ สกว. อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์ วันที่ ๒๙ ต.ค. ศ.นพ.นิกร ดุสิตสิน หัวหน้าโครงการวิจัยส่งเสริมสุขภาพทางเพศ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องจันดารา แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของความต้องการทางเพศของมนุษย์ ถ้าหากว่ารู้จักควบคุมก็จะมีประโยชน์ แต่หากปล่อยให้เป็นไปตามความต้องการก็จะมีปัญหาแบบในภาพยนตร์ ซึ่งสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เด็กจะหล่อหลอมพฤติกรรมของคน เด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ หรือล่วงเกินทางเพศ เมื่อโตขึ้นมีแนวโน้มจะไปทำกับคนอื่นต่อ อย่างจัน ดารา ทั้งนี้ ภายในอายุ ๗ ขวบ ถ้าให้ความรัก ความอบอุ่น จะทำให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อสิ่งต่างๆ เช่น ยาเสพติด ความก้าวร้าว
“การเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กเล็กๆ การเลี้ยงดูที่ขาดความรัก ความอบอุ่น มีความกลัว จะทำให้คนมีบุคลิกที่จะก้าวร้าว ถ้ามีบรรยากาศทางเพศที่มั่วไปหมด จะทำให้มีความก้าวร้าวทางเพศ โดยเฉพาะพระเอก จะกระทำต่อผู้หญิงหลายๆ คน เป็นเรื่องที่สืบจากการเลี้ยงดูสมัยเด็กๆ” ศ.นพ.นิกร กล่าว หัวหน้าโครงการวิจัยส่งเสริมสุขภาพทางเพศ กล่าวด้วยว่า โครงการได้รับการสนับสนุนจาก สกว. ทำการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรการสอนเพศศาสตร์ศึกษา จนได้ชุดหลักสูตรสำหรับสอนเพศศึกษา สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ครูทั่วไป ครูผู้สอนเพศศาสตร์ศึกษา โครงการอบรมระยะสั้น วัยทอง วัยทำงาน สอนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน และโครงการปริญญาโทเพศศาสตร์ศึกษา ซึ่งจุฬาฯ จะเปิดหลักสูตรปริญญาโทเพศศาสตร์ศึกษาในเดือนมิถุนายนปีหน้า ใช้เวลาเรียน ๒ ปี โดยความร่วมมือของหลายคณะ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ คณะจิตวิทยา และคณะนิติศาสตร์ จะรับนักศึกษารุ่นแรก ๑๕ คน จบจากสาขาอะไรก็ได้ นับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เปิดสอนหลักสูตรดังกล่าว โดยเริ่มมาจากแนวความคิดว่า เพศศึกษาเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ ซึ่งโครงการปริญญาโทนี้ หวังว่าจะนำไปสู่การช่วยกระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงสาธารณสุข ในการให้คนมาเรียนแล้วนำไปสอนและใช้ได้ ซึ่งหลักสูตรนี้ ต้องการให้ผู้เรียนเมื่อจบมาแล้ว สามารถสอนเพศศึกษาและทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาได้
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จากคลีนิคเต็มรัก โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา กล่าววิเคราะห์พฤติกรรมของคุณบุญเลื่อม ตัวเอกในเรื่องที่มีความต้องการทางเพศสูง และเปลี่ยนคู่นอนไม่เลือกว่า เกิดจากครอบครัวที่ไม่อบอุ่น ขาดความรักจากพ่อแม่ เมื่อโตขึ้นจึงมีพฤติกรรมดังกล่าว แต่งเนื้อตัวเปิดเผย เพื่อให้คนสนใจ และต้องการความรัก ความอบอุ่นที่ขาดไปเมื่อวัยเด็ก การป้องกันพฤติกรรมดังกล่าว ต้องเริ่มที่ครอบครัว มีหลักในการเลี้ยงเด็กให้เหมาะสมกับวัย เช่น สอนให้รู้ว่าในช่วงวัยรุ่นจะมีพัฒนาการทางเพศ เด็กผู้ชายมีการฝันเปียก เด็กผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือน ทั้งนี้ ปัจจุบัน ยังไม่มีการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาที่เหมาะสม และแทรกไปกับวิชาอื่น
น.ส.มานิต ขันทา ผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า โครงสร้างสังคมไทยกระตุ้นให้เพศชายเรียนรู้เรื่องทางเพศไม่ถูกต้อง เช่น เรียนรู้ผ่านกระบวนการค้าประเวณี กลุ่มคนเหล่านี้จึงเสพติดทางเพศ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และกลุ่มที่มีปัญหาด้านอารมณ์จิตใจ เกิดจากการเลี้ยงดูในวัยเด็กที่ขาดความรัก จากข้อมูลของศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก พบว่า ปัญหาเด็กถูกกระทำหรือล่วงเกินทางเพศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ร้อยละ ๗๐ - ๘๐ เกิดจากการเลี้ยงดู พ่อแม่เลี้ยงดูลูกด้วยความรุนแรง--จบ--
-สส-