“การใช้ ECO Stickerเป็นกลไกในการชำระภาษี”

ข่าวทั่วไป Thursday December 17, 2015 10:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ได้อนุมัติการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ควบคู่ไปกับการมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางให้ผู้ผลิต/ผู้นำเข้าต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker เพื่อเป็นกลไกสำคัญที่จะนำมาใช้ดำเนินการควบคู่กันบัดนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมการในส่วนของ ECO Sticker และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการอนุมัติ ECO Sticker เรียบร้อยแล้ว และได้มีการอนุมัติ ECO Stickerไปแล้วกว่า 677 ป้าย สำหรับ ECO Sticker ที่ได้รับการอนุมัติกำลังทยอยออกมา และเห็นอย่างแพร่หลายในเดือนธันวาคมรวมทั้งในงาน Motor Expo ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 2 -13 ธันวาคม 2558 นี้ด้วย ECO Sticker เป็นแผ่นป้ายขนาดเท่ากระดาษ A4 แบบสีหรือขาว-ดำ ที่มีการระบุข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงและผลการทดสอบตามมาตรฐานที่สำคัญของรถยนต์ ประกอบด้วย 1) ข้อมูลผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า 2) ข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ 3) ข้อมูลอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน และ4) ข้อมูลแสดงสมรรถนะของรถยนต์ตามมาตรฐาน UN (United Nation) อันได้แก่ อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย โดยผู้ผลิต/ผู้นำเข้าจะติด ECO Sticker ไว้ที่กระจกบังลมด้านหน้าหรือด้านข้างบนรถยนต์ใหม่ทุกคัน ก่อนส่งมอบให้กับตัวแทนจำหน่ายหรือโชว์รูมรถยนต์ ทั้งนี้ ผู้ซื้อรถยนต์หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจเท่านั้นที่มีสิทธิในการปลดECO Sticker นอกจากนี้แล้ว ECO Sticker ยังประกอบด้วย QR Codeและหมายเลขทะเบียน (ECO Sticker ID) โดยผู้บริโภคหรือผู้ซื้อรถยนต์สามารถดาวน์โหลด ECO Sticker ของรถคันนั้นเก็บไว้ในมือถือ (Smart Phone) ของตนเองได้ ด้วยการใช้โปรแกรม Line หรือ QR Code Reader Application ที่อยู่บนมือถือ สแกนไปตรง QR Code ที่อยู่บน ECO Sticker ซึ่งในส่วนของ ECO Sticker ID นั้น ผู้บริโภคสามารถนำไปใช้อ้างอิงในการหาข้อมูลของรถคันนั้นได้ นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า "ECO Sticker จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติที่แท้จริงของรถยนต์แต่ละรุ่น ทั้งในด้าน "สะอาด ประหยัด ปลอดภัย" เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ และเมื่อประกอบกับการเก็บภาษีตามอัตราการปล่อย CO2อัตราการใช้น้ำมัน และมาตรฐานความปลอดภัยย่อมเป็นการสนับสนุนให้บริษัทรถยนต์ต้องพัฒนาคุณสมบัติรถยนต์ให้ทัดเทียมรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศชั้นนำ เช่น ญี่ปุ่น ยุโรปออสเตรเลีย หรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคในประเทศที่จะสามารถใช้รถยนต์ที่มีคุณสมบัติด้านความสะอาด ประหยัด ปลอดภัย สูงขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ในประเทศให้ทัดเทียมประเทศชั้นนำและเป็นการส่งเสริมและสร้างความเป็นธรรม ทั้งในส่วนของผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และการจัดเก็บภาษีของภาครัฐอีกด้วย" กระทรวงอุตสาหกรรม มีกำหนดเปิดตัวเว็บไซต์ www.car.go.thในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ซื้อรถยนต์ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลของ ECO Sticker แล้ว ผู้บริโภคจะทราบข้อมูลอื่นๆ ของรถ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเดือน รวมทั้งสามารถดาวน์โหลดโบรชัวร์ของรถ และค้นหาเปรียบเทียบคุณสมบัติของรถยนต์ได้อีกด้วย ECO Sticker จะช่วยให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลสมรรถนะรถยนต์ที่เที่ยงตรง โปร่งใส และเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อประโยชน์ต่อการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ อันจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพและสมรรถนะของรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศ ให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์ยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ