เลี้ยงหมูขุนกับซีพีเอฟสร้างชีวิตใหม่ “ธนพงศ์ฟาร์ม” เปิดฟาร์มดูกระบวนการสร้างอาหารปลอดภัย

ข่าวทั่วไป Wednesday December 30, 2015 12:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--ซีพีเอฟ งานข้าราชการนับว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีความมั่นคง และมีสวัสดิการที่ดี ธนพงศ์ ใจภักดี อดีตข้าราชการทหารที่มอบเวลากว่า 22 ปี ในชีวิตให้กับการเป็นทหารแผนกธุรการก็มีความคิดเช่นเดียวกันนั้น หากแต่ด้วยข้อจำกัดของการทำงานที่ต้องห่างจากครอบครัว ต้องเดินทางเป็นระยะทางไกล และภรรยาก็กำลังมีลูกเล็ก ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมมองหาอาชีพที่จะสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ "ตอนแรกผมยังคิดไม่ออกว่าจะไปทำอาชีพอะไรดี เพราะเราเป็นทหารมาตลอด ตอนนั้นแม่ภรรยาเลี้ยงหมูอยู่กับซีพีเอฟอยู่แล้ว จึงสนับสนุนให้เข้าร่วมโครงการเพราะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดีและมั่นคง" นายธนพงศ์ กล่าวถึงที่มาของการเลือกมาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว ในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรขุนแก่เกษตรกรรายย่อย หรือโครงการฝากเลี้ยง กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ หลังจากหาข้อมูลและทำการศึกษาเป็นอย่างดี เกี่ยวกับโครงการคอนแทรคฟาร์มของซีพีเอฟแล้ว นายธนพงศ์จึงตัดสินใจเข้าร่วมเป็นเกษตรกรภายใต้โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรขุนพนมสารคาม ด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 7-8 แสนบาทซึ่งเป็นเงินออมของเขาและภรรยา และกู้เงินจากสถาบันการเงินมาอีกส่วนหนึ่ง เพื่อสร้าง "ธนพงศ์ฟาร์ม" ที่ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เริ่มเลี้ยงหมูขุน 700 ตัวบนที่ดินของตนเองในปี 2554 โดยเขาทุ่มเทเวลาให้กับอาชีพใหม่นี้อย่างเต็มที่ ทำให้มีประสิทธิภาพการเลี้ยงที่ดี จึงมีรายได้ดีตามไปด้วย เมื่อเห็นว่ามีรายได้ที่มั่นคง เขาจึงขยายธุรกิจด้วยการสร้างโรงเรือนสุกรเพิ่มอีก จนถึงปัจจุบันนี้มีโรงเรือนทั้งหมด 4 หลัง เลี้ยงหมูขุน 2,800 ตัว ใช้เวลาเลี้ยงรุ่นละ 5 เดือน แต่ละปีเลี้ยงหมูได้ 2 รุ่น สร้างรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้เขาถึง 8 แสนบาทต่อรุ่น เมื่อถามถึงการเลี้ยงหมูของเขาว่ามีกระบวนการอย่างไรบ้าง ธนพล บอกว่า การเลี้ยงเน้นให้หมูอยู่สบาย ได้กินอาหารตามความต้องการของหมู โดยมีอาหารให้กินตลอดเวลาไม่เคยขาดเพื่อลดความเครียดของหมู นอกจากนี้ทางซีพีเอฟได้เข้าไปให้ความรู้ เกี่ยวกับการเลี้ยงหมูในโรงเรือนระบบปิดปรับอากาศหรืออีแวป (EVAP) ซึ่งช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการเลี้ยงสุกรในแต่ละช่วงอายุทำให้สุกรไม่มีความเครียดและเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่ดีในเวลาที่รวดเร็ว "เคยมีคนถามว่าหมูที่เราเลี้ยงทำไมถึงโตเร็ว ตัวใหญ่สมบูรณ์ เราตอบว่าไม่ยากเลย ก็แค่ใส่ใจกับทุกๆขั้นตอน ทำทุกอย่างเอง เลี้ยงหมูให้เหมือนเลี้ยงลูก คือเรามีหมูพันธุ์ดีจากบริษัทอยู่แล้ว ก็ต้องเลี้ยงให้กินอิ่ม นอนหลับ อยู่สบาย ไม่เครียด เลี้ยงให้ได้ตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนดและได้มาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์ เมื่อทำได้แบบนี้หมูจึงไม่เครียดก็ไม่ป่วย เราก็ไม่ต้องใช้ยา และที่สำคัญคือไม่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงใดๆทั้งสิ้น" ธนพล บอกเคล็ดลับ ส่วนด้านการเลี้ยงหมู ธนพลบอกว่า ได้ซีพีเอฟเข้ามาให้ความรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมดูแลตลอดกระบวนการเป็นอย่างดี และยังส่งเสริมการเลี้ยงหมูด้วยระบบที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างระบบบำบัดน้ำเสีย เช่นไบโอแก๊ส ทำให้ฟาร์มหมูของธนพงศ์เป็นฟาร์มที่ถูกสุขอนามัยบนพื้นฐานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สำหรับขั้นตอนการเลี้ยงนั้น ก่อนการเลี้ยงหมูในแต่ละรอบ จะเริ่มจากการเตรียมโรงเรือนไว้ให้พร้อม ด้วยการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก่อนนำหมูเข้าโรงเป็นเวลา 5-7 วันแล้วประสานงานกับซีพีเอฟให้นำหมูชุดใหม่เข้าเลี้ยง ขณะเดียวกัน ต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆเช่น หลอดไฟกกเพื่อให้ความอบอุ่นกับลูกสุกรหย่านมที่อายุ 16-20 วัน เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ทำให้ขั้นตอนเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก โดยตลอดการเลี้ยงจะมีสัตวบาล สัตวแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำและติดตามผลการเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ฟาร์มจะเลี้ยงหมูประมาณ 5 เดือน ก็สามารถจับออกได้โดยมีบริษัทเป็นตลาดรองรับผลผลิตทั้งหมด เกษตรกรจึงไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากบริษัทเข้ามารองรับแทน "การที่บริษัทเข้ามาสนับสนุนให้เกิดอาชีพมั่นคงเช่นนี้ นอกจากจะเป็นส่วนช่วยให้เกิดการกระจายรายได้แก่เกษตรกรแล้ว ยังช่วยสร้างความสุขให้กับผมและครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ผมสามารถใช้เวลาดูแลและอยู่กับครอบครัวได้อย่างเต็มที่ ผมคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว" ธนพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย เทคนิคการเลี้ยงทั้งหมดที่ธนพงศ์บอกนี้ หากเพื่อนเกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้ในฟาร์มของตนเอง เชื่อว่าจะทำให้การเลี้ยงหมูพัฒนาขึ้น ได้หมูที่มีมาตรฐานและกลายเป็นอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ