กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานสถานการณ์จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมพื้นที่ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง 7 จังหวัด รวม 31 อำเภอ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดและหน่วยทหารให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมพื้นที่ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง 7 จังหวัด รวม 31 อำเภอ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล สิ่งปลูกสร้าง ถนนในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลได้รับความเสียหาย และเรือประมงล่มหลายลำ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกปฏิบัติการช่วยเหลือและอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าในวันที่ (28 ม.ค. 58) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณพื้นที่ภาคใต้มีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย ปภ. จึงได้ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์คลื่มลมแรงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและประกอบกิจกรรมทางทะเล ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th