สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 1, 2016 17:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,116.63 -1,124.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,000 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,940 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.01 น.ของวันที่ 01/02/16) แนวโน้มวันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2559 เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในช่วงต้นปีนี้ ประเด็นดังกล่าวชัดเจนมากขึ้น เมื่อดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือนมกราคม อย่างเป็นทางการของจีนหดตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปีครึ่ง โดยอยู่ที่ระดับ 49.4 ในเดือนมกราคมเทียบกับ 49.7 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และเป็นการหดตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวสร้างความกังวลอย่างมากให้แก่นักลงทุนหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ข้อมูลภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงของจีนได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะมีเงินทุนไหลออกจากจีนอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลง และแรงกดดันดังกล่าวไม่มีแนวโน้มที่จะหายไปในเร็วๆนี้ประเด็นดังกล่าวยิ่งสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามราคาทองคำภายในประเทศขยับขึ้นในทิศทางที่น้อยกว่าทองคำต่างประเทศซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศอัตราดอกเบี้ยในช่วงบ่ายวันพุธนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ ทั้ง 21 คนที่รอยเตอร์สำรวจความเห็นคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อ คืนพันธบัตร(อาร์/พี) ระยะ 1 วันไว้ที่ระดับ 1.5% เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน หลังจากทิศทางเศรษฐกิจของไทยอาจเผชิญกับความเสี่ยงในช่วงขาลงก็ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก กระแสการคาดการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์แข็งค่าสุดที่ 35.57 ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 3 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงของไทย และอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ -0.1 % แนะนำว่า นักลงทุนสามารถหาจังหวะปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะอาจเกิดแรงขายทำกำไรราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,110-1,109 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,109 (18,660บาท) 1,100 (18,510บาท) 1,093 (18,400บาท) แนวต้าน 1,130 (19,020บาท) 1,140(19,200บาท) 1,152 (19,400บาท) GOLD FUTURES (GFG16) แนวรับ 1,109 (18,800บาท) 1,100 (18,640บาท) 1,093 (18,520บาท) แนวต้าน 1,130 (19,150บาท) 1,140(19,320บาท) 1,152 (19,520บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ