ยอดขายเบื้องต้นของกลุ่มบ๊อชปี 2558ยอดขายกลุ่มบริษัทบ๊อช ทะลุ 7 หมื่นล้านยูโรเป็นครั้งแรกนวัตกรรมและธุรกิจการเชื่อมต่อถึงกันขับเคลื่อนการเติบโตของบ๊อช

ข่าวยานยนต์ Tuesday February 2, 2016 12:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ ดร. โฟล์คมาร์ เดนเนอร์ ประธานคณะกรรมการบริหารของ กลุ่มบริษัทบ๊อช กล่าวว่า "เราได้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ" ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี เพิ่มขึ้นประมาณ 6.5 เปอร์เซ็นต์ โซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อนมีการเติบโตขึ้นรวดเร็วกว่าอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและอาคารเติบโตในอัตราเร่ง อัตราการเติบโตของยอดขายในทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นถึงสองหลัก ปี 2558 ยอดขายของกลุ่มบริษัทบ๊อชสูงกว่า 7 หมื่นล้านยูโรเป็นครั้งแรก จากตัวเลขประมาณการในขั้นต้น บริษัทประสบผลสำเร็จในการเพิ่มรายได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์และยังคงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 5 พันล้านยูโร คิดเป็นร้อยละ 6.5 สูงขึ้นจากปีที่แล้ว อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังคงอยู่ในระดับดี และมีสภาพคล่องสูง ถึงแม้ว่าจะใช้เงินหลายพันล้านในการเข้าถือสิทธิ์ของ บริษัท บีเอสเอช เฮาส์เกเรท จำกัด (BSH Hausgeräte GmbH) และ บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช ออโตโมทีฟ สเตียริ่ง จำกัด (Robert Bosch Automotive Steering GmbH) มร.เดนเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด กล่าวว่า "ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมของบ๊อช ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายและตลาดที่ซบเซาในปี 2558 ซึ่งแรงผลักดันสำคัญมาจากเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อผู้คนในโลกเข้าด้วยกันมีเพิ่มมากขึ้น" บ๊อชมีอิทธิพลต่อการเข้าสู่โลกเศรษฐกิจระบบดิจิตอล การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจของบ๊อชนั้น มีผลจากการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน บ๊อชเป็นบริษัทเดียวในโลกนี้เท่านั้นที่มีการใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้ง 3 ระดับ บ๊อชนำเสนอเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ เช่น เซ็นเซอร์ และ ซอฟท์แวร์ และยังสามารถพัฒนาธุรกิจบริการใหม่จากอุปกรณ์เหล่านี้ มร.เดนเนอร์กล่าวว่า "ด้วยความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเซนเซอร์ ซอฟท์แวร์ และการบริการ ทำให้ราสามารถเชื่อมต่อโลกเข้าด้วยกัน และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตอล ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ผมไม่อยากให้มองว่ามันเป็นความเสี่ยง ขอให้มองว่ามันคือโอกาสมหาศาล" ตัวอย่างเช่นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว บริษัทได้ประกาศว่าจะเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฮม ในงานมหกรรมงานแสดงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค (CES) ที่ลาส เวกัส และบ๊อชก็ได้นำเสนอระบบสมาร์ทโฮมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ในแต่ละประเภทธุรกิจของบ๊อช การพัฒนายอดขายของทั้ง 4 หน่วยธุรกิจในปีที่ผ่านมามีความแตกต่างกัน ดร. สเตฟาน อเซนแคช-เบาเมอร์ ประธานกรรมการบริหารด้านการเงิน และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด กล่าวว่า "ในปี 2558 เราได้พัฒนาตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในตลาด เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในหลายๆ ด้าน และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น" แม้ว่าธุรกิจยานยนต์ทั่วโลกจะมีการเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ แต่ธุรกิจในกลุ่มโซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อนประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ อ้างอิงจากตัวเลขเบื้องต้น โดยรวมยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 คิดเป็น 41.7 พันล้านยูโรในปี 2558 ผลิตภัณฑ์ที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดของบ๊อช คือ ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง, ระบบหัวฉีดดีเซล, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่, และการเชื่อมต่อการสื่อสารในรถยนต์ ส่วนธุรกิจเครื่องอุปโภคบริโภคเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง บ๊อชสามารถเพิ่มยอดขายของปีได้ร้อยละ 9.3 หรือคิดเป็น 17.2 พันล้านยูโร ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีคือ เครื่องมือไฟฟ้าไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น เตาอบรุ่นที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ ธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานและอาคารเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 คิดเป็น 5.1 พันล้านยูโร โดยมาจากธุรกิจบริการ, ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และโซลูชั่นระบบความร้อน ส่วนธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการหดตัวของตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักร ทำให้ยอดขายลดลงร้อยละ 1.7 หรือคิดเป็น 6.6 พันล้านยูโร ธุรกิจการขับเคลื่อนและควบคุมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของตลาดเทคโนโลยีอุตสาหกรรมในปี 2558 ความคืบหน้าของธุรกิจในแต่ละภูมิภาคปี 2558 บ๊อชในยุโรปมีการเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2558 จากตัวเลขเบื้องต้นยอดขายของภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 คิดเป็น 37.5 พันล้านยูโร โดยเฉพาะที่ประเทศเยอรมนียอดขายเป็นไปในทางบวก ส่วนบ๊อชในทวีปอเมริกาเหนือมียอดขายที่เพิ่มขึ้นสูง รายได้จากบริการและเทคโนโลยี เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 คิดเป็น 12.6 พันล้านยูโร ในแอฟริกาใต้ บ๊อชประสบกับสถานการณ์ที่มีความท้าทายซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายของบริษัท จากรายงานเบื้องต้นนั้น ยอดขายในปี 2558 คือ 1.4 พันล้านยูโร ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 13 ในขณะที่ทวีปเอเชียแปซิฟิก ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 คิดเป็น 19.1 พันล้านยูโร ในปี 2558 บ๊อชเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดทวีปแอฟริกา จึงขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่นี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานในยุโรป เอเชียแปซิฟิก และอเมริกา บ๊อชได้ว่าจ้างพนักงานประจำ 375,000 คน ทั่วโลก อ้างอิงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 โดยภาพรวมนั้นมีการว่าจ้างเพิ่มขึ้น 17,600 คนในปี 2558 พื้นที่ที่มีการว่าจ้างเพิ่มมากสุดคือ ยุโรปกลาง และ ยุโรปตะวันออก, เยอรมนี, เอเชียแปซิฟิก และ อเมริกา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นที่ต้องการมากที่สุด ปี 2559 – มองภาพรวมเชิงบวกอย่างระมัดระวัง สำหรับปี 2559 บ๊อชคาดการณ์การเติบโตปานกลาง ประมาณร้อยละ 2.8 สำหรับยอดขายทั่วโลก "เรายังเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาด ทั้งตลาดในภูมิภาค และในบางอุตสาหกรรม" มร.อเซนแคชเบาเมอร์ กล่าว ตามภูมิรัฐศาสตร์แล้ว สถานการณ์ในปี 2559 ยังคงมีความซับซ้อนและมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม บ๊อชยังคงเชื่อมั่นที่จะดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่เจริญเติบโตในปีนี้ ให้ขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าในตลาดอื่นๆ แม้ว่าเราจะมีการลงทุนมหาศาลเพื่อความมั่นคงและอยู่รอดของบริษัทในระยะยาวแล้ว ผลประกอบการและกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษียังต้องพัฒนาต่อไป ชีวิตที่ดีขึ้นรอบด้าน และเรียบง่ายขึ้นกับโซลูชั่นที่เชื่อมต่อถึงกัน เป้าหมายกลยุทธ์ของบ๊อช คือ การนำเสนอโซลูชั่นสำหรับการขับเคลื่อนที่เชื่อมต่อถึงกัน ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อถึงกันได้ รวมถึงระบบพลังงานและอาคารที่เชื่อมต่อถึงกัน ปี 2558 บริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายด้านที่เป็นโซลูชั่นด้านการเชื่อมโยงถึงกัน มร.เดนเนอร์กล่าว "เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อถึงกันเป็นกุญแจสำคัญที่เอาชนะความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นการขาดแคลนทรัพยากร และการขยายตัวของเมือง" อย่างเช่นในอาคารที่เชื่อมต่อกันอย่างอัจฉริยะ เราสามารถลดการใช้พลังงานลงได้มากถึงร้อยละ 40 โดยภายในปี 2563 จะมีประมาณ 230 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนครัวเรือนทั่วโลกที่จะติดตั้งการใช้งานโซลูชั่นบ้านอัจฉริยะ มร.เดนเนอร์กล่าวต่อว่า "เทคโนโลยีและระบบการเชื่อมต่อถึงกันต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานในการทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติและง่ายดาย" ด้วยเหตุผลนี้เอง การพัฒนาระบบบ้านอัจฉริยะของบ๊อชจึงมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ด้วยการสั่งงานจากที่เดียว ระบบจะเชื่อมต่อเครือข่ายอัจฉริยะกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องทำความร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ระบบความบันเทิง ระบบไฟ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย ทุกอุปกรณ์ในบ้านมีการเชื่อมต่อถึงกันและสามารถสั่งงานได้โดยผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตในแอพเดียว สร้างความแข็งแกร่งในด้านที่คุ้นเคย และกล้าออกไปหาความท้าทายใหม่ มร.เดนเนอร์กล่าวว่า "เราเริ่มเจาะตลาดใหม่ที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้ เช่น อุตสาหกรรมการเชื่อมต่อถึงกันและบ้านอัจฉริยะ ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามากับตลาดเดิมของเราที่มีอยู่ก่อนแล้ว" โอกาสที่ว่านี้รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ได้มาในปี 2558 คือการควบรวมบริษัท Seeo Inc. ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ปัจจุบัน บ๊อชมีความรู้บุกเบิกทางด้านเซลล์โซลิดสเตต มร.เดนเนอร์อธิบายว่า "ไม่ว่าธุรกิจนี้จะพัฒนาไปในทางที่ดี หรือจะแย่ลง บ๊อชก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมัน" บ๊อชเล็งเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ส่วนของตลาดรถสองล้อ และกลุ่มยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้สร้างหน่วยงานใหม่ขึ้นมาสำหรับธุรกิจทั้งสองส่วน เพื่อที่จะได้รองรับกับตลาดและความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การขับเคลื่อนอัตโนมัติ การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และการเชื่อมต่อถึงกัน เป็นสามสิ่งหลักในธุรกิจยานยนต์ที่จะมีผลระยะยาวกับยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์และรถสองล้อ ในส่วนของยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์นั้น การขับเคลื่อนอัตโนมัติจะมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในการช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถสองล้อ ซึ่งต่างจากระบบคาร์บูเรเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง และเป็นส่วนสำคัญที่นำไปสู่การอนุรักษ์ทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา ลดก๊าซเรือนกระจกด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ในบริบทนี้ มร.เดนเนอร์ได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดีเซล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยบรรลุเป้าหมายลดภาวะโลกร้อน มร.เดนเนอร์กล่าวว่า "เครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้นที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามที่สหภาพยุโรปได้ตั้งเป้าหมายไว้" ยานพาหนะเครื่องยนต์ดีเซลปล่อยก๊าซเสียออกมาน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซินอย่างมีนัยสำคัญ มร.เดนเนอร์กล่าวอีกว่า "มีข้อโต้แย้งเรื่องคุณภาพอากาศและสารอนุภาคในเมืองใหญ่ๆ ที่กล่าวว่า เครื่องยนต์ดีเซลไม่ใช่ส่วนหนึ่งของปัญหา แต่เป็นส่วนหนึ่งของทางแก้ไข" ต้องขอบคุณเทคโนโลยีการกำจัดสารอนุภาคในอากาศที่มักพบได้ในเมืองใหญ่ "เครื่องยนต์ดีเซลเป็นเสมือนเครื่องกรองอากาศ" มร.เดนเนอร์กล่าวย้ำ เครื่องส่งพลังดีเซลสามารถทำงานได้ดีกว่านั้น บ๊อซมีเทคโนโลยีที่ปล่อยแก๊สไนโตรเจนออกไซด์ออกมาในระดับที่ต่ำมากๆ แม้กระทั่งระหว่างการขับขี่จริงๆ บนท้องถนน "เป้าหมายการพัฒนาของเราคือทำให้คุณภาพของรถยนต์ดีเซลสอดคล้องกับมาตรฐานให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่เพียงในการทดสอบ แต่เป็นในการขับขี่จริงบนท้องถนน" บ๊อชจึงได้สนับสนุนการทดสอบที่สมจริงมากขึ้น และการปล่อยก๊าซขณะขับขี่จริง มร.เดนเนอร์กล่าวเสริมว่า ควรให้องค์กรอิสระเข้ามาสอบกระบวนการผลิตยานยนต์อย่างสม่ำเสมอ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ