สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 5, 2016 18:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,156.90 -1,153.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,500 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 130 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,370 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.25 น.ของวันที่ 05/02/16) แนวโน้มวันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2559 การคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง เมื่อดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 15 สัปดาห์ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าแนวโน้มการจ้างงานในสหรัฐอยู่ในภาวะอ่อนแอลงและนายจ้างสหรัฐประกาศปลดพนักงานออกในเดือนมกราคมในจำนวนที่พุ่งขึ้น 218% จากเดือนธันวาคม โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นการปลดพนักงานในภาคพลังงานและภาคค้าปลีก ล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มกราคมเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ 285,000 ราย จาก 277,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า และตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอาจจะอยู่ในภาวะอ่อนแอเกินคาด ขณะที่ข้อมูลจาก CME FedWatch ระบุว่า สัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า เทรดเดอร์ได้ปรับตัวรับโอกาสเพียง 10% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม และ โอกาส 41% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ แรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำชัดเจนมากขึ้น เมื่อกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองคำยังคงเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำเพิ่มขึ้น โดยเมื่อนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำสูงถึง 24.39 ตัน โดยถือครองทองคำแตะระดับ 693.62 ตัน อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อขายในภูมิภาคเอเชียเบาบางลง เนื่องจากหลายประเทศได้เข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนแล้ว ขณะที่ตลาดจีนจะปิดทำการตลอดทั้งสัปดาห์ ประกอบกับราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำตลาดโลก เมื่อค่าบาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายแข็งค่ามาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 35.50 และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 3 เดือน ที่ 35.47 หลังกระแสเงินทุนมีแนวโน้มไหลกลับเข้ามาในระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบครอบ วายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,145-1,133 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวผันผวน โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,160-1,168 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,145 (19,210บาท) 1,133 (19,010บาท) 1,125 (18,880บาท) แนวต้าน 1,160 (19,470บาท) 1,168 (19,600บาท) 1,175 (19,720บาท) GOLD FUTURES (GFG16) แนวรับ 1,145 (19,310บาท) 1,133 (19,100บาท) 1,125 (18,970บาท) แนวต้าน 1,160 (19,560บาท) 1,168 (19,690บาท) 1,175 (19,810บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ