ITD ชี้กลยุทธ์การค้าและการลงทุนไทยในอินเดีย

ข่าวทั่วไป Monday February 8, 2016 12:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ITD เสนอแนวทางการสร้างโอกาสการลงทุนภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย – อินเดีย จากการศึกษาเจาะลึกในรายละเอียดของประเทศอินเดีย พบว่า รัฐอุตตรประเทศ มีโอกาสที่ผู้ประกอบการชาวไทยจะเข้าไปทำการค้าและการลงทุนแล้วประสบผลสำเร็จในระดับสูง เนื่องจากมีลักษณะภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมในการประกอบธุรกิจการค้าและการลงทุน เช่น แรงงานที่มีราคาต่ำ ทรัพย์พยากรทางธรณีที่อุดมสมบูรณ์ อาณาเขตติดกับเมืองที่สำคัญและใกล้แหล่งท่องเที่ยว ความได้เปรียบของชาวต่างชาติในเรื่องวรรณะในอินเดีย มีการพัฒนาทางด้านโลจิสติกส์ และมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการลงทุนในพื้นที่เหล่านี้ถือเป็นโอกาสอย่างยิ่งในการขยายการค้าการลงทุนไทยในประเทศอินเดีย นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐอุตตรประเทศเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศอินเดีย โดยจากการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดในปี 2011 รัฐอุตตรประเทศมีประชากร 199,581,477 คนและร้อยละ 28 ของประชากรของรัฐอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเป็นเมือง (Urbanised Metro Cities) ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 ของรัฐ อาศัยอยู่ทางตะวันตก ซึ่งมีพรมแดนติดกับปริมณฑลของกรุงเดลี เมืองหลวงของประเทศ อุตตรประเทศเป็นรัฐที่มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์กว้างขวางเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศอินเดีย ด้วยอาณาเขต 243,286 ตารางกิโลเมตรและภูมิอากาศและมีพื้นดินที่มีคุณสมบัติทางธรณีวิทยาที่เหมาะสมสำหรับการทำอุตสาหกรรมการเกษตร ประกอบกับการมีแรงงานวัยฉกรรจ์ที่มีจำนวนมาก ดังนั้นด้วยความได้เปรียบของผู้ประกอบการไทยที่มีความเชี่ยวชาญและมีเทคโนโลยีการเพาะปลูก เทคโนโลยีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก และความเชี่ยวชาญในการเข้าถึงตลาดส่งออกในระดับโลก ร่วมกับความได้เปรียบของรัฐอุตตรประเทศในเรื่องของแรงงานที่มีจำนวนมากและมีค่าแรงไม่สูง รวมกับสภาพของพื้นที่ที่มีดินและแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น การค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตร ปุ๋ย และเคมีเกษตร รวมทั้งการต่อยอดเรื่องอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป จึงน่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการชาวไทยในการเข้าไปทำการค้าและการลงทุนในรัฐอุตตรประเทศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อุตตรประเทศมีอิทฺธิพลทางด้านการเมืองทำให้มีการดึงเงินมาลงทุนและพัฒนาทางด้านโลจิสติกส์ อุตตรประเทศเป็นรัฐที่มีมูลค่าผลผลิตมวลรวมรายรัฐสูงเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศอินเดีย ที่ระดับ 8,902 พันล้านรูปี (GDP ของประเทศอินเดีย = 104,728 พันล้านรูปี) อัตราการเจริญเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่องนี้ นอกจากจะดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้เข้าไปลงทุนในรัฐอุตตรประเทศแล้ว ยังดึงดูดให้นักลงทุนชาวอินเดียซึ่งมีฐานทางการเงินและฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลก สนใจขยายการลงทุนเข้าไปในพื้นที่นี้อีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ