กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เดือนมกราคม 2559 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 30 ดอลล่าห์สหรัฐต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 12 ปี อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากผลการประชุม FED ที่มีแนวโน้มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับการลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นอยู่ที่ -0.1% ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้ SET Index ปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 1,300.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.0% จากสิ้นปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค
ด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 12.73 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากสิ้นปี ก่อน ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai อยู่ที่ 44,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากเดือนก่อน
สรุปตัวเลขที่สำคัญ
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
· ณ สิ้นเดือนมกราคม 2559 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,300.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.0% จากสิ้นปีก่อน
· Market capitalization ของ SET อยู่ที่ 12,415,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% ขณะที่ mai อยู่ที่ 314,634 ล้านบาท ลดลง 2.73% จากเดือนก่อน
· Forward P/E ของ SET อยู่ที่ 13.09 เท่า และ mai อยู่ที่ 17.76 เท่า โดยอัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.53% และ mai อยู่ที่ 1.32% ณ สิ้นเดือนมกราคม 2559
· ในเดือนมกราคม 2559 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 44,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากเดือนก่อนหน้า
· ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิอยู่ที่ 8,319 ล้านบาท แต่ลดลงจากที่ขายสุทธิอยู่ที่ 32,495 ล้านบาทในเดือนธันวาคม 2558
· บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีมูลค่าระดมทุนรวม 6,244 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าระดมทุนทั้งหมดมาจากการระดมทุนในตลาดรอง
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
· ในเดือนมกราคม ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 213,128 สัญญา ลดลง 24.2% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายที่ลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Options
ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/setresearch