กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,185.08 -1,194.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,920 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 140 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,060 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.16 น.ของวันที่ 10/02/16)
แนวโน้มวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559
สัญญาณความตึงตัวมากขึ้นในภาคธนาคารของยุโรปอาจลุกลาม ซึ่งสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ผลกำไรของธนาคารเผชิญกับแรงกดดันและจะส่งผลต่อฐานะของธนาคารพาณิชย์ในยุโรป เมื่อธนาคารขนาดใหญ่ของยุโรปได้ถือตราสารหนี้ของบริษัทในกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ซึ่งมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น เพราะหากราคาน้ำมันดิ่งลงจนบริษัทในกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอาจไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือซื้อคืนตราสารหนี้ได้ ปัญหาดังกล่าวกดดันหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ในยุโรปกำลังเผชิญกับแรงเทขายในช่วงต้นปีนี้ในระดับที่รุนแรงกว่าช่วงเริ่มต้นวิกฤติการเงินในปี 2008 ทั้งนี้ ทองคำได้แรงหนุนเพิ่มเมื่อความขัดแย้งในคาบสมุทรทะเลจีนใต้ทวีความตรึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อสหรัฐและอินเดียได้หารือกันเรื่องการลาดตระเวนทางทะเลร่วมกัน ซึ่งอาจจะรวมถึงการลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ด้วย โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสร้างความไม่พอใจให้แก่จีน เพราะจีนอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้ การแสดงความสัมพันธ์ทางทหารต่อกันระหว่างอินเดียและสหรัฐได้กระชับรวมถึงการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในมหาสมุทรอินเดียในปี 2015 โดยมีกองทัพเรือญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนยิ่งจะร้าวฉานมากขึ้น อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าผู้ค้าทองคำในอินเดียยากลำบากมากขึ้นในการขายทองคำหลังจากที่ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างมาก ว่าแม้ว่าผู้ค้าทองคำจะเสนอขายทองคำในราคาที่ต่ำกว่าในตลาดลอนดอนราว 25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าเป็นการเสนอส่วนลด (Discount) ราคาทองคำที่สูงเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ผู้บริโภคชาวอินเดียรอดูว่า ราคาทองคำในอินเดียจะดิ่งลงไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นเริ้มเห็นแรงขายทำกำไรที่มากขึ้น ขณะที่การขยับขึ้นหรือแรงซื้อเริ่มชะลอตัวลงแนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,183-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,200-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,180 (19,750บาท) 1,172 (19,600บาท) 1,167 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,205 (20,150บาท) 1,216 (20,300บาท) 1,233 (20,600บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,180 (19,840บาท) 1,172 (19,700บาท) 1,167 (19,620บาท)
แนวต้าน 1,205 (20,260บาท) 1,216 (20,440บาท) 1,233 (20,730บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148