สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 11, 2016 16:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,196.63 -1,218.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 400 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 20,340 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 450 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,860 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น.ของวันที่ 11/02/16) แนวโน้มวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อสมาชิกสภาคองเกรส บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นจากตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว, จากตลาดการเงินที่ผันผวน และ จากเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มไม่แน่นอน อย่างไรก็ดี ประธานเฟดยืนยันว่าไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวไม่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดต่อคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานก่อนที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ปัจจัยดังกล่าวเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำต่อไป จนราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มจากรายงานสภาทองคำโลก (WGC) บ่งชี้ว่า บริษัทเหมืองแร่ชะลอการผลิตทองคำเพื่อปรับลดต้นทุน และปริมาณการผลิตทองคำในเหมืองก็หดตัวลงในไตรมาส 4/2015 ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ส่งให้ปริมาณทองคำทั่วโลกร่วงลง 4 % ในปี 2015 สู่ 4,258 ตัน ขณะที่อุปสงค์ทองคำได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อตลาดหุ้นประสบภาวะปั่นป่วนวุ่นวาย และมีความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยอุปสงค์ทองคำในช่วงไตรมาส 4/2015 ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อทองคำโดยธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เพื่อกระจายทุนสำรองของตนเองออกจากดอลลาร์สหรัฐ โดยปริมาณการซื้อทองคำของธนาคารกลางปรับขึ้นสู่ 588.4 ตันในปี 2015 และจากคำสั่งซื้อทองของนักลงทุนชาวจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องตนเองจากการดิ่งลงของค่าเงินหยวน ซึ่งอุปสงค์ทองคำในจีนปรับขึ้น 2% อยู่ที่ 985 ตันในปี 2015 โดยกระแสนี้มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต ซึ่งวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,200-1,196 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,220-1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามราคาทองคำต้องให้ความสำคัญไปที่ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงขายทำกำไรหลังราคาทะยานขึ้นซึ่งควรติดตามอย่างใกล้ชิด กลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำพยายามสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวลักษณะทะยานขึ้นอย่างต่อเน่องโดยนักลงทุนควรซื้อและขายทำกำไรระยะสั้นและติดตามราคาอย่างใกล้ชิด สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือแนะนำให้ทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,220-1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,200-1,196 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวของราคา ซึ่งวายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังอยู่ทิศทางเชิงบวกของราคาแนะนำให้นักลงทุนเล่นในกรอบและให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,196 (19,930บาท) 1,188 (19,800บาท) 1,180 (19,660บาท) แนวต้าน 1,222 (20,370บาท) 1,230 (20,500บาท) 1,241 (20,690บาท) GOLD FUTURES (GFG16) แนวรับ 1,196 (20,060บาท) 1,188 (19,920บาท) 1,180 (19,800บาท) แนวต้าน 1,222 (20,500บาท) 1,230 (20,630บาท) 1,241 (20,810บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ