ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันและแนวโน้ม “บ. บางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส” ที่ “AA+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 12, 2016 10:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท บางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส จำกัด (BMUL) ที่ระดับ "AA+" ด้วยแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดยบริษัทแม่ของบริษัทคือ Mitsubishi UFJ Lease and Finance Co., Ltd. (MUL) ในประเทศญี่ปุ่น โดย MUL ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ "A" จาก Standard & Poor's และ "A3" จาก Moody's Investors Service (Moody's) ซึ่งอันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันซึ่งค้ำประกันหุ้นกู้แบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยผู้ค้ำประกันพร้อมที่จะชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันในกรณีที่บริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด นอกจากนี้ หากมีการควบรวมหรือการครอบงำกิจการของ MUL บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการหรือบริษัทที่เข้าครอบงำกิจการของ MUL จะต้องรับข้อผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย ในกรณีที่ MUL ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ อนึ่ง ภาระการค้ำประกันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนได้โดยปราศจากมติเอกฉันท์จากผู้ถือหุ้นกู้ อันดับเครดิตของ MUL ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศญี่ปุ่น โดย MUL มีจุดแข็ง 3 ประการ ได้แก่ 1) การเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของทั้ง Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG) และ Mitsubishi Corporation (MC) ซึ่งจะทำให้ MUL มีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจาก MUFG หากจำเป็น 2) การมีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ เนื่องจาก MUL เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมลีสซิ่งของประเทศญี่ปุ่นและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือของ MUFG และ MC ซึ่งช่วยให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ 3) การมีแหล่งรายได้ที่กระจายตัวอันเนื่องมาจากการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ MUL ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ MUFG โดย MUL ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ "A" ด้วยแนวโน้ม "Negative" หรือ "เป็นลบ" จาก Standard & Poor's และ "A3" ด้วยแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" จาก Moody's อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ BMUL อาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกัน MUL ก่อตั้งในปี 2514 ในชื่อ Diamond Lease Co., Ltd. หลังจากควบรวมกิจการกับ UFJ Central Leasing Co., Ltd. ในเดือนเมษายน 2550 แล้วจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นชื่อในปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 MUFG รวมถึงกลุ่มบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจธนาคารอย่าง Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ Ltd. (BTMU) และ Mitsubishi UFJ Trust and Banking Corp. ถือหุ้นใน MUL รวมกันในสัดส่วน 23% ในขณะที่ MC ถือ 20% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 MUL มีสินทรัพย์รวม 5.1 ล้านล้านเยนและมีสินทรัพย์ดำเนินงาน 4.6 ล้านล้านเยน MUL มีสำนักงานสาขาอยู่ทั่วโลก โดยบริษัทย่อยในต่างประเทศส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชียและประเทศสหรัฐอเมริกา MUL มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งจากการแนะนำธุรกิจของบริษัทในเครือ เช่น MUFG และ MC ทั้งนี้ MUL มีแหล่งรายได้ที่กระจายตัวโดยมาจากธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจ ลีสซิ่ง ธุรกิจผ่อนชำระของลูกค้าองค์กร และบริการทางการเงิน รวมถึงบริการสินเชื่อสำหรับกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-related Service) ธุรกิจสินเชื่อเพื่อซื้อขายเครื่องจักรมือสอง และบริการสินเชื่ออื่นๆ ในเดือนเมษายน 2557 MUL ได้ประกาศแผนธุรกิจสำหรับระยะ 3 ปีข้างหน้าโดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มผลกำไรด้วยการพัฒนาธุรกิจของตนเองและเร่งขยายธุรกิจไปในต่างประเทศทั้งจากการเติบโตจากธุรกิจปกติและจากการซื้อกิจการ รวมถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จนถึงปัจจุบัน MUL ได้ซื้อกิจการของบริษัทสินเชื่อลีสซิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปซึ่งประกอบด้วย บริษัทสินเชื่อลีสซิ่งเครื่องบิน 1 แห่งและบริษัทสินเชื่อลีสซิ่งตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งใช้ในกิจการขนส่งสินค้าทางเรืออีก 1 แห่ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 สินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในต่างประเทศของ MUL มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,467 พันล้านเยน คิดเป็นสัดส่วน 32% ของสินทรัพย์ดำเนินงานทั้งหมดของ MUL โดยเพิ่มขึ้นจาก 31% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 และ 21% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ปัจจุบัน MUL กำลังขยายฐานลูกค้าไปพร้อม ๆ กับการปรับโครงสร้างการดำเนินงานทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในต่างประเทศ ในรอบปีบัญชี 2552 (เมษายน 2551-มีนาคม 2552) ผลประกอบการของ MUL ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจโลก โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 7.1 พันล้านเยน ลดลงจาก 30.2 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2551 บริษัทยังคงความสามารถในการสร้างผลกำไรแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำโดยไม่เคยมีปีใดที่บริษัทมีผลขาดทุน ผลประกอบการของ MUL ในรอบปีบัญชี 2557 มีกำไรสุทธิ 37.7 พันล้านเยน และเพิ่มขึ้นเป็น 44.1 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2558 สำหรับ 6 เดือนแรกของรอบปีบัญชี 2559 (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2558) MUL มีกำไรสุทธิ 28.9 พันล้านเยน หรือเพิ่มขึ้น 28.4% จากช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชีก่อน MUL ถือว่ามีกำไรสูงขึ้นจากอดีตมาโดยตลอด ซึ่งกำไรส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของบริษัทลูกในต่างประเทศที่บริษัทเพิ่งซื้อกิจการเข้ามาใหม่ MUL มีการใช้แหล่งเงินกู้ระยะสั้นจำนวนหนึ่งซึ่งไม่สอดคล้องกับระยะเวลาของสินทรัพย์และทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องระยะสั้นในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวบรรเทาลงจากการที่บริษัทใช้วิธีบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่รอบคอบและการได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องคือ BTMU ตามแผนธุรกิจ MUL ได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่านบริษัทลูกของตนคือบริษัทบางกอก มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ซึ่งดำเนินธุรกิจให้เช่าแบบ ลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน โดยบริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ก่อตั้งในปี 2534 จากความร่วมมือของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทคือ MUL ซึ่งถือหุ้น 44% ในขณะที่ธนาคารกรุงเทพและบริษัทที่เกี่ยวข้องถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 34% บริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ให้บริการใน 2 ธุรกิจหลัก คือ สินเชื่อลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการให้เช่าดำเนินงานรถยนต์พร้อมบริการซ่อม MUL ได้แสดงความตั้งใจในการให้การสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและด้านการเงินแก่บริษัท ซึ่งรวมถึงความรู้ทั้งในด้านแนวปฏิบัติในการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตลอดจนการให้การค้ำประกันหนี้ ซึ่งรวมถึงการค้ำประกันหุ้นกู้ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งของการให้การสนับสนุนด้านการเงินที่บริษัทได้รับในฐานะเป็นบริษัทลูกของ MUL ด้วย การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบริษัทแม่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องในอนาคตซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการให้ความสำคัญแก่กลุ่มธุรกิจต่างประเทศของ MUL โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย บริษัท บางกอก มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส จำกัด (BMUL) อันดับเครดิตตราสารหนี้: BMUL163A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AA+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ