กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 25 เมษายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,230.60-1,237.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,590 บาท โดยราคาปรับตัวลดงล 190 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,780 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.07 น.ของวันที่ 25/04/16)
แนวโน้มวันที่ 26 เมษายน 2559
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 26- 27 เมษายนนี้ ทำให้นักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เฟดจะมีการส่งสัญญาณออกมาแม้ว่าจะมีการประเมินว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมครั้งนี้ ร่วมทั้งคาดว่ามีโอกาสเพียง 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 14-15 มิถุนายน แต่นักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดอาจจะปรับเปลี่ยนคำบรรยายเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นร่วมการเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนในตลาดทองคำระมัดระวังในการถือครองทองคำ เพราะหากมีสัญญาณทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปรับสูงจนเฟดอาจจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 2 ครั้งในปีนี้ ทองคำอาจต้องเผชิญกับแรงขายออกมา เนื่องจากตลาดคาดการณ์ไว้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปลายปีนี้ ขณะที่ราคาทองคำในระยะสั้นได้รับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 27-28 เมษายนและจะประกาศผลการประชุมออกมาในเวลาราว 11.00-13.00 น.ของวันที่ 28 เมษายน ตามเวลาไทย โดยมีแนวโน้มว่าบีโอเจอาจจะเริ่มปล่อยกู้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ด้วยอัตราดอกเบี้ยติดลบและอาจดำเนินมาตรการอื่นๆควบคู่ไปด้วยได้อย่างเช่นมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติม หากเป็นเช่นนั้นจริงประเด็นดังกล่าวจะกดดันสกุลเงินเยน และกระตุ้นให้สกุลเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นซึ่งได้ส่งผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำอีกทาง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพราะในช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,222 (20,280บาท) 1,208 (20,050บาท) 1,200 (19,910บาท)
แนวต้าน 1,243 (20,630บาท) 1,252 (20,780บาท) 1,260 (20,920บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,222 (20,430บาท) 1,208 (20,200บาท) 1,200 (20,060บาท)
แนวต้าน 1,243 (20,780บาท) 1,252 (20,940บาท) 1,260 (21,070บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999