กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,270.73-1,281.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 21,540 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,530 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.17 น.ของวันที่ 18/05/16)
แนวโน้มวันที่ 19 พฤษภาคม 2559
ความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นและการเติบโตทำให้วาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ ใช้เป็นเหตุผลในการปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นลงสู่ "ลงทุนปานกลาง" (neutral) สำหรับช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยจอร์จโซรอส ได้ปรับลดการลงทนในหุ้นสหรัฐลงถึง 37% เหลือ 3.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้และได้นำเงินส่วนนี้ไปซื้อหุ้นบาร์ริค โกลด์คอร์ปซึ่งเป็นผู้ลิตทองแท่งรายใหญ่ของโลกเป็นเงิน 264 ล้านดอลลาร์หรือ 1.7% ของหุ้นทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการเข้าถือคอลออปชั่น 1.05 ล้านห้นใน กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่กองทุน SPDR เองก็มีการปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและสร้างมุมมองต่อราคาทองคำในเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาต่างๆ เรียกร้องให้เฟดมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพราะมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นในเศรษฐกิจโดยรวมก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตเร็วขึ้นในไตรมาส 2 โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.4% ในเดือนเมษายน ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเกินคาด 6.6% สู่ 1.172 ล้านยูนิต ต่อปีในเดือนเมษายน ส่วนข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.7% ในเดือนเมษายนเช่นกัน ประเด็นดังกล่าวดันดอลลาร์พุ่งขึ้นจากการคาดการณ์เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งนักลงทุนจับตาสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญและควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,288 หรือ 1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,268 (21,340บาท) 1,257 (21,160บาท) 1,250 (21,040บาท)
แนวต้าน 1,288 (21,680บาท) 1,296 (21,820บาท) 1,303(21,940บาท)
GOLD FUTURES (GFM16)
แนวรับ 1,268 (21,480บาท) 1,257 (21,300บาท) 1,250 (21,180บาท)
แนวต้าน 1,288 (21,820บาท) 1,296 (21,960บาท) 1,303(22,080บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999