กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,206.43-1,214.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 20,590 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,550 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.51 น.ของวันที่ 31/05/16)
แนวโน้มวันที่ 01 มิถุนายน 2559
รอยเตอร์จัดทำผลสำรวจจากการสอบถามผู้จัดการกองทุนจีน 8 ราย โดยโพลล์ระบุว่า ผู้จัดการกองทุนได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสำหรับช่วง 3 เดือนข้างหน้าขึ้นสู่ 71.9% จาก 69.4% เนื่องจากผู้จัดการกลุ่มนี้มองว่า ตลาดหุ้นจีนได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ของสหรัฐระบุว่า โอกาสที่บริษัท MSCI จะบรรจุหุ้น A-share ของจีนเข้าไว้ในดัชนีของ MSCI ในเดือนมิถุนายนได้พุ่งขึ้นจาก 50% ในเดือนเมษายนสู่ 70% โดยเป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการเชิงบวกโดยมาตรการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆที่ขัดขวางผู้จัดการกองทุนทั่วโลกจากการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นจีน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดความน่าสนใจในการลงทุนลง ทั้งนี้ตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งขึ้นมากที่สุดในวันเดียวในรอบ 3 เดือนในวันอังคารนี้ โดยปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่กองทุน CSOP FTSE China A50 ซึ่งถือเป็นกองทุน ETF ที่เน้นการลงทุนในจีนที่ใหญ่ที่สุดและเป็นกองทุนที่อยู่ในรูปสกุลเงินหยวนมีเงินลงทุนไหลเข้า 303.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นยอดเงินไหลเข้ารายวันที่สูงที่สุดในรอบหนึ่งปี ซึ่งได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการบรรจุหุ้น A-share ของจีนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีตลาดเกิดใหม่ของ MSCI ซึ่งถือเป็นดัชนีอ้างอิงระดับโลก เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาไม่สามารถ break out แนวต้าน 1,216 ได้ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราคากลับลงมาตั้งฐานบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีก แนะนำรอเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดขึ้นมาใกล้ 1,216-1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากรับความเสี่ยงได้มาก อาจเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อเก็งกำไรจังหวะดีดตัวหากราคายืนเหนือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,216 หรือ 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำเปิดสถานะขาย และนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจนมีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (20,270บาท) 1,192 (20,140บาท) 1,185 (20,020บาท)
แนวต้าน 1,216 (20,550บาท) 1,224 (20,680บาท) 1,233 (20,840บาท)
GOLD FUTURES (GFM16)
แนวรับ 1,200 (20,400บาท) 1,192 (20,270บาท) 1,185 (20,150บาท)
แนวต้าน 1,216 (20,670บาท) 1,224 (20,810บาท) 1,233 (20,960บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999