BM คาดรายได้ Q2/59 ดีกว่า Q1/59 หลังรับงานจักรกลเกษตร-เครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2016 10:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น "บางกอกชีทเม็ททัล" คาดรายได้ Q2/59 เพิ่มขึ้นจาก Q1/59 หลังจากรับงานชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร และชิ้นส่วนโลหะสำหรับเครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น เร่งเดินหน้าขยายกำลังการผลิต นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BMหนึ่งในผู้นำการผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก ได้แก่ รางเดินสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และแผงควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ตามอาคาร คอนโดมิเนียม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม สถานีไฟฟ้า เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้า "BSM", "BM", "BS" และ "BEST" และผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปอื่นๆ จากโลหะตามความต้องการของลูกค้า และเป็นผู้จำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ากำไรสุทธิ และรายได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 "รายได้ในไตรมาส 2 น่าจะดีอย่างต่อเนื่อง จากรายได้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ยังมีแนวโน้มดีได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเจ้าของแบรนด์สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรรายใหญ่ยังมีตลาดที่ขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ที่เกษตรกรมีการพัฒนาระบบการผลิตโดยหันมาใช้เครื่องจักรกลการเกษตรมากขึ้น นอกจากนี้ คาดว่ารายได้ในไตรมาส 2 ยังได้รับปัจจัยบวกจากการผลิตชิ้นส่วนโลหะสำหรับเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่ว่าจ้างบริษัทฯ ผลิตชิ้นส่วนโลหะ ยังคงมีตลาดเครื่องปรับอากาศที่ขยายตัว อันเนื่องมาจากภาวะอากาศร้อนยังมีอยู่" นายธานิน กล่าว นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM กล่าวว่า ในขณะนี้บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายกำลังการผลิตตามแผนที่ได้วางไว้อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการสั่งซื้อ และติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติมภายในอาคารโรงงานแห่งใหม่หลังที่หนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตอย่างเต็มที่ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รวมถึงโครงการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่หลังที่สอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และจะสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป 'ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีโอกาสที่จะปรับตัวดีขึ้นกว่าในไตรมาสแรก เนื่องจากการได้รับคำสั่งผลิตจากคู่ค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เราก็จะได้รับงานใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย'นายธีรวัตกล่าว นายธีรวัต กล่าวถึง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 13.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.86 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2,179.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 7.05% และมีรายได้จากการขายและบริการ 190.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.31 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ