Movieภาพยนตร์ ขุนพันธ์

ข่าวบันเทิง Thursday June 16, 2016 13:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม กำหนดฉาย 14 กรกฎาคม 2559 แนวภาพยนตร์ แอคชั่นเหนือจินตนาการ บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทดำเนินงานสร้าง บาแรมยู กำกับภาพยนตร์ ก้องเกียรติ โขมศิริ อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ควมคุมการสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ ร่วมควบคุมการสร้าง สิตา วอสเบียน ประสานงานสร้าง จันทพร ธนโกเศศ เรื่องและบทภาพยนตร์ ก้องเกียรติ โขมศิริ ออกแบบและกำกับฉากต่อสู้ วีระพล ภูมาตย์ฝน ควบคุมดูแลแอคชั่นบนหลังม้า ครูแอ้นท์ ม้าทมิฬ(วัชรชัย สุนทรศิริ) กำกับภาพ ทิวา เมยไธสง และปราเมศวร์ ชาญกระแส ลำดับภาพ ปัญญ์สุนิตย์ อัศวินิกุล ดนตรีประกอบและออกแบบเสียง เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา ฟิล์มแลบส์ สยามพัฒนาฟิล์ม ออกแบบเครื่องแต่งกาย นิรชรา วรรณาลัย ออกแบบงานสร้าง ธนะ เมฆาอัมพุท แต่งหน้า-เมคอัพเอฟเฟกต์ ศิวกร สุขลังการ ออกแบบทรงผม เทิด ยอดทอง ออกแบบและสร้างรอยสัก นิติธร สะอาดดี, ชนัญชิดา ทรงโฉม นักแสดง อนันดา เอเวอริงแฮม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เดี่ยว ชู พงษ์ ช่างปรุง, กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, แฟรงค์ ภคชนก์ โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี, กานต์พิสชา เกตุมณี เรื่องย่อ ขุนพันธ์ ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังก่อตัวขึ้น ญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอำนาจรุกรานทั่วเอเชีย รวมทั้ง ประเทศไทยที่กำลังเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่เพื่อเตรียมก้าวเข้าสู่โลกอารยะ ความเจริญเริ่มรุกล้ำ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้คนกลับขัดสนยากจน ถูกกดหัวอยู่ภายใต้อาณัติของเหล่าชุมโจรเสือร้ายที่ก่อร่างสร้างอิทธิพลไปทั่วทุกหัวระแหงโดยหาได้หวั่นเกรงต่อกฎหมายแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าผืนปฐพีจะไร้ซึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สัตย์ซื่อ ภักดีในความถูกต้อง และยึดมั่นในความยุติธรรม จังหวัดชุมพร ปี พ.ศ. 2481 ภายหลังจากเด็ดชีพ เสือกลับ คำทอง และพวกพ้องที่อุกอาจปิดเมืองทั้งเมืองและจับสารวัตรดำเกิงผู้บังคับบัญชาเป็นตัวประกัน "นายบุตร์" หรือ "ร้อยตำรวจโท ขุนพันธรักษ์ราชเดช" (อนันดา เอเวอริงแฮม) นายร้อยตำรวจหนุ่มฝึกหัดก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยกระสุนเพียงนัดก็สามารถกำราบเสือร้ายเลื่องชื่อได้เป็นผลสำเร็จ นั่นเป็นเพราะความสามารถเฉพาะตัวและวิชาที่บ่มเพาะติดตัวมา ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีนายตำรวจมือปราบรายใดในประวัติศาสตร์เคยทำมาก่อน นั่นคือเสนอตัวเข้ารับผิดชอบในภารกิจลับที่เสี่ยงที่สุด อันตรายที่สุด ซึ่งอาจใช้เวลานับเดือนหรือแรมปีโดยต้องทิ้งชีวิตที่เหลืออยู่เป็นเดิมพัน นั่นคือ การเสาะหาและออกไล่ล่าเพื่อปิดตำนานของ "อัลฮาวียะลู" (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยม ดุดัน แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย หนำซ้ำ ยังคงกระพันหนังเหนียว ครองอิทธิพล แผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วภาคใต้ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันว่าแกร่งกล้าเพราะมีวิชาและของดีอยู่ในตัว ขุนพันธ์ในคราบของนายบุตร์จึงแอบแฝงตัวเข้าไปสืบข่าวโดยได้รับความช่วยเหลือจาก "ไข่โถ" (สนธยา ชิตมณี) และ "มาลัย" (กานต์พิสชา เกตุมณี) 2 พี่น้องครอบครัวชาวประมงที่ทำงานในสโมสรงาช้างของ "หลวงโอฬาร" (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) ข้าราชการใหญ่ผู้ทรงอำนาจและอิทธิพลจนทุกคนต้องเคารพและยำเกรง ซึ่งทำให้ต้องเผชิญกับ "เสือสัง" (เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง) และ "บุหงา" (กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) 2 มือสังหารข้างกายของมหาโจรที่ว่ากันว่าคือนักฆ่าเลือดเย็นและไร้ความปรานีอย่างที่สุด พร้อมด้วยเหล่าทัพเสือโจรร้ายนับไม่ถ้วน ณ ดินแดนแห่งนี้นี่เองที่ทำให้ขุนพันธ์ได้รู้ความจริงว่า เมืองทั้งเมืองคือชุมโจรขนาดใหญ่ ชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือโดยมีนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่นรู้เห็นกับมหาโจร คอยชักโยงและอยู่เบื้องหลังเพื่อกอบโกยผลประโยชน์โกงกินและขายชาติ กระทั่งความจริงปรากฎ พวกโจรรู้ว่าขุนพันธ์แฝงตัวเข้ามา การไล่ล่าและเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดมือปราบและมหาโจรฆ่าไม่ตายจึงอุบัติขึ้นท่ามกลางห่ากระสุน คาวเลือด และการต่อสู้ อาคมต่ออาคม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ขุนพันธ์ต้องเลือกระหว่างหนีเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอด หรือกลับไปช่วยเหลือและเปลี่ยนหัวใจชาวบ้านให้ลุกขึ้นมาสู้กับโจร.... สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับเมืองนี้... และเพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าแรงกระสุนหรือจะสู้แรงศรัทธา 14 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ บทบาทและคาแรคเตอร์ตัวละครใน "ขุนพันธ์" ขุนพันธ์ รับบทโดย อนันดา เอเวอริงแฮม ร้อยตำรวจหนุ่มอายุ30 ปีเป็นคนมุ่งมั่น กล้าหาญ จริงจังและเปี่ยมด้วยคุณธรรม ยึดมั่นในความดี ศรัทธาในความถูกต้อง ผู้พร้อมจะล้างกฏหมู่ด้วยกฏหมายขุนพันธ์เป็นทั้งนักสู้ นักวางแผน และนักต่อรอง ผู้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า คงกระพัน ถนัดในการใช้ปืนและมีดเป็นอาวุธ ปราบเสือมาแล้วมากมาย จนกระทั่งได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันที่สุด คู่ต่อสู้ที่จับเป็นยังไม่ได้ จับตายแทบไม่มีทาง เขาคือมหาโจร "อัลฮาวียะลู" อัลฮาวียะลู รับบทโดย กฤษดา สุโกศล แคลปป์ มหาโจรผู้มีวิถีความเชื่อตามอุดมการณ์ที่ยึดถือ ผู้ยึดครองดูแลทุกอณูพื้นที่แห่งเทือกเขาบูโด โหด สุขุม เลือดเย็น ฉลาด มีไหวพริบ มีอุดมการณ์ พร้อมจะเชือดทุกคนที่ขวางทางได้อย่างไร้ซึ่งความปรานี มีกริชเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยสักและร่องรอยการต่อสู้ทั่วร่าง มหาโจรอย่างอัลฮาวียะลูเป็นคนมีของและอาคมชั้นสูง คงกระพัน เป็นคู่ต่อกรของขุนพันธ์ที่กินกันไม่ลง ทุกครั้งที่ได้เจอกันจะมีการปะทะเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน อาคมต่ออาคม เสือสัง รับบทโดย เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง โจรอำมหิต นิ่ง เลือดเย็น ลูกน้องคนสนิทของอัลฮาวียะลูที่ฆ่าคนได้โดยไม่ลังเล บ้าคลั่งในการต่อสู้ สักยันต์ทั้งตัว ตั้งแต่หน้า คอ แขน หลัง อาวุธหลักของเสือสังคือคารัมบิต ทุกงานที่อัลฮาวียะลูไม่ได้ลงมือจะมีเสือสังเป็นคนจัดการและสำเร็จทุกครั้งไป จนกระทั่งเจอขุนพันธ์ที่มาขวางทางปืน เมื่อถูกสั่งให้ล่าตำรวจหนังเหนียวคนนี้ เสือสังจะไม่ยอมหยุดล่าจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง บุหงารับบทโดย กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร หนึ่งในนักฆ่าที่อยู่ใต้อำนาจของอัลฮาวียะลู สวย เท่ห์ โหด พูดน้อย ทำได้ทุกอย่างที่ไม่ต่างกับที่ผู้ชายอย่างเสือสัง เธอซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ใต้แว่นดำ ชุดทะมัดทะแมงคล้ายบุรุษมีมีดสั้นเป็นอาวุธและเก่งการสู้ประชิดตัว และเมื่อเขาพบขุนพันธ์ บุหงาก็รู้เลยว่าคู่ต่อสู้คนนี้ไม่ธรรมดา หลวงโอฬาร รับบทโดย แฟรงค์ ภคชนก์ โวอ่อนศรี ข้าราชการขี้ฉ้อ เลวในกมลสันดาน เจ้าเล่ห์ ช่างประจบสอพลอ ซ่อนความเลวใต้รอยยิ้ม ขายชาติเพื่อความสุขของตัวเองโดยใช้อารยะ ความเจริญ และการเมืองไต่เต้าสู่ความสำเร็จ เก่งเรื่องการวางหมากชั่วช้า เป็นคนบงการเรื่องเลวๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองนี้โดยไม่สนเรื่องความถูกต้อง ร่วมมือกับอัลฮาวียะลูทำเรื่องผิดกฏหมาย และพร้อมจะจัดการทุกคน จนมาเจอก้างชิ้นใหญ่อย่างขุนพันธ์ เขาจึงต้องการกำจัดนายตำรวจคนนี้ออกไปให้เร็วที่สุด มาลัยรับบทโดยกานต์พิสชา เกตุมณี สาวชาวบ้านที่อ่อนหวาน บริสุทธิ์ ที่เก็บความรู้สึกแสนเศร้าไว้ข้างใน ด้านหนึ่งเธอคือน้องสาวที่อ่อนโยนสดใสของ ไข่โถ พี่ชายคนเดียวที่เธอมีอยู่ ส่วนอีกด้านเธอคือนักร้องเสียงดีประจำสโมสรงาช้างของหลวงโอฬาร ชีวิตเธอวนเวียนอยู่ซ้ำๆ จนกระทั่งขุนพันธ์ก้าวเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ ไข่โถ รับบทโดย สนธยา ชิตมณี พี่ชายของมาลัย ชาวเลจิตใจดี ผู้สืบสานวิถีอันดีของชาวใต้ อีกทั้งยังเป็นหลักที่พึ่งพิงทางจิตใจของหมู่บ้านชาวประมง ถูกอำนาจและอิทธิพลครอบงำมาช้านาน จนกระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องผืนน้ำ และแผ่นดินเกิดของตน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ