ฟิทช์จัดสัมนาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 7, 2016 14:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดสัมนาขึ้นในวันนี้ เรื่องหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure projects) และภาพรวมของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม โดยภายในงานมีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคการเงิน รวมถึงนักลงทุนสถาบันเข้าร่วมงานซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพฯ มากกว่า 50 คน งานสัมมนาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ข้อมูลและเพิ่มความเข้าใจแก่นักลงทุนและบริษัทที่สนใจจะออกตราสาร สำหรับขั้นตอนและปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาจัดอันดับเครดิตของตราสารหนี้สำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ในปัจจุบันการออกตราสารหนี้ประเภทดังกล่าวในประเทศไทยยังคงมีจำนวนจำกัด อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเสนอขายตราสารหนี้รูปแบบใหม่ๆ จากการที่บริษัทในประเทศไทย และบริษัทในกลุ่มประเทศ CLMV มีการระดมทุนผ่านตลาดทุนในระยะยาวมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการออกตราสารหนี้ประเภทดังกล่าวด้วย คุณวินเซนต์ มิลตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า การพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรฐกิจ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนการค้าและความเชื่อมโยงระหว่างประเทศในภูมิภาค Mr. Yasushi Negishi, Country Director, Thailand Resident Mission of Asian Development Bank เป็นผู้ร่วมบรรยายในงานสัมนาครั้งนี้ โดย Mr. Negishi ได้กล่าวถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศ CLMV คุณโอบบุญ ถิรจิต ผู้อำนวยการฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคอุตสาหกรรม ได้กล่าวว่าหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียในปี 2540 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยมีความล่าช้าหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยการลงทุนของภาครัฐได้ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดที่ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product, GDP) ในช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ มาอยู่ที่ระดับประมาณ 6% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องการขนส่งทางถนน ทางราง และทางน้ำ และระบบขนส่งมวลชล จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ