“สพฉ.ติดอาวุธ DMAT TEAM เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ”

ข่าวทั่วไป Friday July 15, 2016 11:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เสียงระเบิดลูกแรกดังขึ้นพร้อมควันพวยพุ่งที่ถังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ เสียงระเบิดลูกที่สองตามมาติดๆ ส่งผลให้การกระจายตัวของสารเคมีขยายเป็นวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเตรียมตัวออกปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เสียงประสานงานผ่านวิทยุสื่อสารดังไม่ขาดสาย รถพยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพกูภัยถูกจัดสรรเป็นทีมเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินที่ติดอยู่ในโรงงานผลิตสารเคมีอย่างเป็นระบบ นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์จำลองในการฝึกอบรมหลักสูตรหน่วยสนับสนุนด้านการแพทย์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ หรือDMAT (Disaster Medical Assistance Team) ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โดยการฝึกอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นที่สถาบันฝึกดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูง ทาฟต้า อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉินและอาสาสมัครเข้าร่วมรับการฝึกอบรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ระบบบัญชาการเหตุการณ์ทางด้านการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติเป็นหนึ่งในระบบที่ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับการเกิดเหตุการณ์ให้ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เล่าถึงที่มาที่ไปของการอบรมในครั้งนี้ว่า "ปัจจุบันการเกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและต่อมนุษย์เอง และทำให้มีผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ สพฉ.เองเห็นว่าการที่เราเตรียมทีมให้มีความพร้อมต่อการบริหารจัดการสาธารณภัยอย่างเป็นระบบทั้งก่อนเกิดภัยพิบัติ ขณะเกิดภัยพิบัติและหลังเกิดภัยพิบัติจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราจึงได้จัดฝึกอบรมทีมDMAT (Disaster Medical Assistance Team) สำหรับผู้ปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินขึ้น เพื่อรองรับการช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบบัญชาการเหตุการณ์ทางด้านการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติเป็นอีกหนึ่งระบบที่ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้ในการเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาหากเกิดภัยพิบัติเราจะเห็นว่าการประสานงานในหลายส่วนยังทำงานได้อย่างยากลำบาก การเรียนรู้เรื่องการบัญชาการเหตุการณ์จะทำให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นไปอย่างเป็นระบบมากขึ้นด้วย" นพ.อนุชากล่าว สำหรับการฝึกอบรมในครั้งนี้นั้นผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับการฝึกเรียนรู้ระบบการบริหารจัดการสาธารณภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติ การปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินในภาวะพิบัติภัย การเรียนรู้ด้านการตอบโต้เหตุและการช่วยเหลือบรรเทาเหตุการณ์อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมยังจะได้เรียนรู้ในเรื่องของการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบด้วยการใช้ระบบบัญชาการเหตุการณ์ทางด้านการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติจากการจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอาทิ การก่อการร้าย สถานการณ์การชุมนุม ภัยพิบัติทีเกิดจากน้ำท่วม พายุ สารเคมีรั่วไหล แผ่นดินไหว ด้วย พ.ญ.วรรษพร อมรไชย แพทย์จากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี หนึ่งในแพทย์ที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้กล่าวว่า "การเข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้ทำให้เราเห็นแนวทางในการเตรียมการช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินจากสถานการณ์พิบัติภัยได้ชัดเจนขึ้น เพราะเราได้ฝึกเตรียมพร้อมรับมือในหลากหลายสถานการณ์ของการเกิดภัยพิบัติมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์สารเคมีรั่วไหล การก่อการร้าย น้ำท่วมและ ซึ่งในจังหวัดอุบลราชธานีนั้นจะเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้งและสร้างผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่ การอบรมในครั้งนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากที่เราจะได้นำไปใช้ต่อยอดในการวางระบบร่วมกับท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" แพทย์จากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานีกล่าว ด้านชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าอาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นตัวแทนของอาสาสมัครจากภารประชาชนที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้กล่าวว่า " ในส่วนของจังหวัดนครราชสีมานั้นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก็จะมาจากอุบัติบนท้องถนน เพราะจังหวัดเรามีถนนที่เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน และหลายครั้งที่ทำให้เกิดอุบัติภัยหมู่บนท้องถนนจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก การเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ของผมจึงทำให้เห็นแนวทางการบัญชาการเหตุการณ์เมื่อเกิดภัยพิบัติหรืออุบัติหมู่ต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างชัดเจน และจะเป็นส่วนที่จะทำให้ช่วยเสริมการทำงานในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ของผมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งหลังจากอบรมในครั้งนี้แล้วผมจะทำรูปแบบและการเรียนรู้ไปถ่ายทอดให้กับน้องๆ อาสาสมัครในมูลนิธิของผมอีกทอดหนึ่งด้วย" หัวหน้าอาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 จังหวัดนครราชสีมากล่าว เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉินและอาสาสมัครเข้าร่วมรับการฝึกอบรมทีม DMAT (Disaster Medical Assistance Team) ในครั้งนี้จะได้รับการติดอาวุธทางด้านองค์ความรู้ที่พร้อมในการช่วยเหลือประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในทุกสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นในใจให้กับประชาชนว่าหากยามใดที่เกิดภัยพิบัติ DMAT TEA M พร้อมในการเข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน !!!!

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ