บลจ.ทาลิส เจ๋ง! Private Fund ทะลุเป้า 2 พันลบ. ภายใน 4 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 20, 2016 12:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--IR network บลจ.ทาลิส เจ๋ง! Private Fund ทะลุเป้า 2 พันลบ. ภายใน 4 เดือนโชว์ฝีมือบริหารพอร์ตขั้นเทพ-ขาใหญ่เทใจให้ดูแลเปิดผลงานย้อนหลังตั้งแต่เดือนเม.ย.สูงกว่าเป้าหมายจ่อเปิดตัวกองทุนรวมภายในปลายปีนี้ ตามกระแสเรียกร้องจากนักลงทุนรายย่อย บลจ.ทาลิส ปลื้ม! นักลงทุนรายใหญ่แห่ใช้บริการกองทุนส่วนบุคคล 4 เดือนแรก มีขนาดกองทุนภายใต้การจัดการ (AUM) ทะลุ 2 พันล้านบาท บิ๊กบอส "ฉัตรพี ตันติเฉลิม"ปรับเป้าหมายใหม่เป็น 3 พันล้านบาทภายใน สิ้นปี จ่อเปิดตัวกองทุนรวมปลายปีนี้ตามกระแสเรียกร้องของนักลงทุนรายย่อย มั่นใจภายในสิ้นปี AUM รวมทั้งของกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวมไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท โชว์ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.กว่า 14% ขณะที่"ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์" มองแนวโน้ม SET ครึ่งปีหลัง มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,500-1,600 จุด อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง-เงินทุนไหลเข้าหนุน หลังอังกฤษออกจาก EU ลุ้นปี 2560 ดัชนีทะยานแตะ 1,700-1,800 จุด นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการบริหารกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) หลังจากที่เปิดดำเนินการมาเพียง 4 เดือน เท่านั้น โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายใหญ่ ที่ให้ความไว้วางใจให้บริหารกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ทำให้ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ และจนถึงขณะนี้นักลงทุนรายใหญ่ ยังสนใจเข้ามาขอรับคำปรึกษาเรื่องการลงทุน และไว้วางใจให้บริษัทฯบริหารกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทฯ จึงปรับเพิ่มเป้าหมาย AUM ในส่วนของ Private Fund สิ้นปี 2559 นี้เป็นมากกว่า 3,000 ล้านบาท "แม้ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกจะมีความผันผวน แต่ในแง่ของผลตอบแทนของ Private Fund ภายใต้การบริหารของทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเป็นมืออาชีพ ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจของลูกค้า เนื่องจากสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้สอดรับกับทิศทางตลาดหุ้น ตลาดเงิน และตลาดตราสารหนี้ที่มีความผันผวน ทำให้มีการบอกกันปากต่อปาก เป็นวงกว้าง และทำให้ AUM เติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้าในเวลาเพียงไม่นาน" นายฉัตรพี กล่าวอีกว่า ไม่เพียงแต่นักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น ที่ให้ความไว้วางใจให้บริษัทฯบริหารจัดการเงินลงทุน นักลงทุนรายย่อยเองมีการสอบถามเข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งกองทุนรวม จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีนี้ และจากมีการสอบถามจากนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าในปี 2559 นี้ AUM ของ บลจ.ทาลิส จะมีมูลค่ามากกว่ารวมกันมากกว่า 5,000 ล้านบาท ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปรากฎว่าลูกค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อย ติดต่อสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก และผลจากการบริหารเงินลงทุนของลูกค้าจนได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ ทำให้มีการแนะนำกันแบบปากต่อปาก โดยลูกค้าเก่าก็มีการลงทุนเพิ่ม ขณะที่ลูกค้าใหม่ก็เข้ามาปรึกษาและตัดสินใจให้ บลจ.ทาลิส บริหารเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน Private Fund ภายใต้การบริหารของ บลจ.ทาลิส ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับกองทุนของลูกค้าที่ลงทุนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 มีผลการดำเนินงานเฉลี่ยรวมประมาณ 17-18% ส่วนกองทุนของลูกค้าที่ลงทุนตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 มีผลการดำเนินงานเฉลี่ยโดยรวมประมาณ 14% ขณะที่ SET TRI ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ประมาณ 4% "Private Fund ที่บริหารอยู่ในปัจจุบันจะโฟกัสเฉพาะตลาดหุ้นไทย โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าเศรษฐกิจซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม" นายประภาส ประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2559 ว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโตที่ ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับนักลงทุนมองหาสินทรัพย์เพื่อลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนสูง จึงคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ กระแสเงินทุนยังไหลเข้าตลาดหุ้นและกองทุนรวมประเภทที่ลงทุนในหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งจะมีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของปีมีโอกาสเห็นดัชนีหุ้นไทยแตะระดับ 1,500-1,600 จุด และปี 2560 มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปทะลุระดับ 1,700-1,800 จุดได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ