กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,311.04-1,321.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ16 อยู่ที่ 22,020 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,090 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น.ของวันที่ 21/07/16)
แนวโน้มวันที่ 22 กรกฎาคม 2559
การคาดการณ์ครั้งใหม่ที่ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่จากรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจัดเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดหนึ่งซึ่งมีขนาดไม่ต่ำกว่า 1.90 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือกับการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนที่เฉื่อยชา ซึ่งผลสำรวจความเห็นของรอยเตอร์พบว่า นักวิเคราะห์ 85% คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะผ่อนคลายนโยบายลงในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายทางการคลังที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะจะประกาศในเดือนนี้ ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่นปิดพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และค่าเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยได้แรงหนุนจากปริมาณเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น และการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ขณะที่ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน โดยการแข็งค่าได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและการคาดการณ์มากขึ้นว่า สหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าผลกระทบจากการที่อังกฤษลงมติออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit และทางเลือกด้านนโยบายที่เหลือน้อยลงในการกระตุ้นเศรษฐกิจโลกนั้น จะเป็นประเด็นหลักในการประชุม ส่งผลให้เมื่อราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,311-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ราคาทองคำมีโอกาสจะดีดตัวขึ้นได้ โดยการดีดตัวประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดแรงขายทำกำไรออกมา และเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานของราคาอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,305 (21,610บาท) 1,293 (21,410บาท) 1,285 (21,280บาท)
แนวต้าน 1,333 (22,080บาท) 1,347 (22,310บาท) 1,358 (22,490บาท)
GOLD FUTURES (GFQ16)
แนวรับ 1,305 (21,750บาท) 1,293 (21,550บาท) 1,285 (21,420บาท)
แนวต้าน 1,333 (22,220บาท) 1,347 (22,450บาท) 1,358 (22,630บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999