กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มขึ้นได้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนตก ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ จึงได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเครื่องสูบน้ำในจุดอ่อนน้ำท่วมขัง อำนวยการจราจร และช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมขังกรณีฝนตกหนักและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้จากทะเลจีนใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่ง อาจทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มได้ โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อม ปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดให้เตรียม การป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสม โดยประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ทั้งวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และอาสาสมัคร รวมถึงตรวจสอบท่อและทางระบายน้ำในเขตเมืองมิให้มีสิ่งของหรือวัสดุอุดตัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนตก ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ ปภ. จึงได้ประสานการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังร่วมกับกรุงเทพมหานคร หน่วยทหาร ตำรวจ และสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพอากาศและการเคลื่อนตัวของกลุ่มฝน พร้อมเพิ่มเครื่องสูบน้ำในจุดอ่อนน้ำท่วมขัง เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความรวดเร็ว จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเส้นทางน้ำท่วมขัง เพื่ออำนวยการจราจรและปิดกั้นเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ตลอดจนแบ่งมอบพื้นที่และกำหนดความรับผิดชอบในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งการซ่อมแซม เคลื่อนย้ายรถที่เครื่องยนต์ขัดข้องมิให้จอดกีดขวางเส้นทาง การจัดรถขนาดใหญ่ให้บริการขนย้ายสิ่งของและรับส่งประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมขังกรณีฝนตกหนักและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th