กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ฝนตกหนักและวาตภัยใน 3 จังหวัดได้แก่ สงขลา ฉะเชิงเทรา และอำนาจเจริญ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 20 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าแรงสูงหัก32 ต้น ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย เบื้องต้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้วพร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากฝนตกหนักและปริมาณฝนสะสม ในช่วงวันที่ 28 – 31 กรกฎาคม 2559
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณริมถนนสายเอเชียฝั่งขาเข้าบ้านคลองประดู่หักโค่นจำนวน 32 ต้น ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ทำให้หลังคาโรงสีศิริพร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มทับคนงานเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 9 ราย จังหวัดอำนาจเจริญ ในพื้นที่หมู่ที่ 2 4 และ 7 ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 20 หลังคาเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ฉะเชิงเทรา และอำนาจเจริญ ได้ร่วมกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัคร มูลนิธิการกุศลต่างๆ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 28 – 31 กรกฎาคม 2559 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีพายุเคลื่อนตัวเข้าประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ
เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและปริมาณฝนที่ตกสะสม รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th