MAX เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงงานปิดดีลซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าขยะมูลค่า 190 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 29, 2016 17:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--Bangkok Autumn บอร์ดไฟเขียวลงทุนครั้งใหญ่มูลค่ารวม 450 ล้านบาท ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า - สนามกอล์ฟ ตามแผนมุ่งสร้างแหล่งรายได้ประจำหวังสร้างผลตอบแทนมั่นคงระยะยาว นายอิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มาหาชน) หรือ MAX เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ครั้งที่ 7/2559 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 ได้มีมติอนุมัติการการลงทุนใน 2 รายการสำคัญ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 450 ล้านบาท ได้แก่ รายการที่ 1.การเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ราชบุรี-อีอีพี รีนิวเอเบิ้ล เอนเนอจี้ จำกัด (R-EEP) มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 190 ล้านบาท โดยเข้าซื้อหุ้นจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 10 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของ R-EEP ในราคาหุ้นละ 19.00 บาท โดยเป็นการซื้อจากบริษัท เอบีพี ไฮเพาเวอร์ จำกัด สำหรับประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของ R-EEP ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กจากเชื้อเพลิงขยะ กำลังการผลิตสูงสุด 9.9 เมกะวัตต์ และได้รับสัญญาขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แล้วขนาด 8.0 เมกะวัตต์ ปัจจุบันการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนธันวาคม 2559 นี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในรูปของรายได้และกระแสเงินสดในระยะเวลาที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ สามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตของรายได้ของบริษัทให้มั่นคงได้ในอนาคต และช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว และบริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องตามนโยายแผนที่มีแผนกระจายการลงทุนไปสู่การดำเนินธุรกิจพลังงานตามแผนธุรกิจที่เคยได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่แหล่งเงินลงทุนของบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินเพิ่มทุนที่คงเหลืออยู่ 839 ล้านบาท โดยใช้เงินทุนดังกล่าวลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าตามแผน นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ดได้มีมติให้ลงทุนในรายการที่ 2. คือ ให้บริษัทเข้าลงทุนซื้อหุ้น 20.80 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 80% มูลค่าการลงทุน 260 ล้านบาท ในบริษัท เดอะมาเจสติค ครีก คันทรีคลับ จำกัด (MJC) โดยเป็นการซื้อหุ้นจากบริษัท หัวหินพัฒนา จำกัด ทั้งนี้การลงทุนครั้งนี้เพื่อขยายฐานหรือการเพิ่มขอบเขตในการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัท คือ ในระยะอันสั้นบริษัทจะมีรายได้ กำไรที่แน่นอนและต่อเนื่องในระยะยาวต่อไป โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่บริษัทมีเป้าหมายในการลงทุน อีกทั้งเป็นการเพิ่มรายได้และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัท ทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในระยะยาว และราคาซื้อหุ้นต่ำกว่าราคาประเมินของมูลค่าบริษัทที่เหมาะสม ทำให้บริษัทได้รับกำไรจากรายการดังกล่าว สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนคงเหลือที่มีอยู่ในบริษัทจำนวน 639 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดว่าจะใช้เงินเพิ่มทุนดังกล่าวไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า เนื่องจากโครงการอสังหาริมทรัพย์สามารถเจรจาตกลงกันได้ก่อนซึ่งจากเดิมที่ได้กำหนดในแผนว่า จะใช้เงินลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากแหล่งเงินทุนที่ได้รับจากการออก TSR ทางบริษัทจึงต้องนำเงินเพิ่มทุนคงเหลือมาลงทุนก่อนที่ตามแผนจะต้องลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า ซึ่งหากโครงการโรงไฟฟ้าสามารถตกลงกันได้และแหล่งเงินทุนจากการเพิ่มทุนโดยเฉพาะเจาะจงไม่เพียงพอ ทางบริษัทก็จะนำเงินทุนจากแหล่งเงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนจาก TSR มาใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่อไปในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ