LPH มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15% ตามเป้า เชื่อครึ่งปีหลังไฮซีซั่น ปลื้ม ผล งานครึ่งปีแรกกำไรพุ่งกว่า 150%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 15, 2016 14:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--IR PLUS LPH แจ้งผลประกอบการงวดครึ่งแรกของปี 2559 กำไรพุ่งกระฉูกกว่า 150% โกยรายได้รวม 670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 11.7% ส่วนงบ Q2/59 ผลงานออกมาสวยเช่นกัน มีรายได้รวม 331.67ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.58% ดันกำไรโตกว่า 120% "ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช" ซีอีโอคนเก่ง เผยแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ คนป่วยเข้า มา ใช้ บริการรักษาพยาบาลเพิ่มมากขึ้น มั่นใจรายได้ปี 59 โตมากกว่า 15% แน่นอน พร้อมทั้งเผยความคืบหน้าการลงทุนอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ลาดพร้าว ล่าสุดคืบหน้าแล้วกว่า 60% ความคืบหน้าการลงทุน โครงการศูนย์พักฟื้นและดูแลผู้สูงอายุ และโรงพยาบาลลาดพร้าวลำลูกกา คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 2560 และแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการในปี 2562 ตามแผน ส่วนความคืบหน้าซื้อ โรงพยาบาลเดชา ล่าสุด LPH เสนอทางเลือกใหม่เป็นการเช่าระยะยาวแทน เนื่องจากราคาเสนอขายค่อนข้างสูงมากกว่าราคาประเมิน ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.59) ว่าบริษัทฯมีรายได้รวมประมาณ 670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 11.7% และมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 2.9% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิกว่า 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 151.1% ทั้งนี้มีสัดส่วนรายได้รวมมาจากการรักษาพยาบาลที่ 88% การบริการ 9% และอื่นๆ 3% โดยรายได้การรักษาพยาบาลมีรายได้ประมาณ 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 7.7% มาจากรายได้จากผู้ป่วยชำระเงินประมาณ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 10.6% ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 5 ศูนย์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการส่วนนี้เพิ่มขึ้นกว่า 14.4% เป็นรายได้โตกว่า 34.8% และจากประกันสังคมมีรายได้ประมาณ 287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกปีที่ผ่านมา คิดเป็น 4.8% และมีรายได้จากการบริการประมาณ 59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 27.1% ส่วนผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 332 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็น 7.6% โดยมีรายได้การรักษาพยาบาลประมาณ 297 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็น 5.4% และรายได้จากการบริการประมาณ 29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 20.3% และมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.3% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิกว่า 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 122.7% ดร.อังกูร กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มผลงานในครึ่งหลังปี 2559 โดยคาดว่าผลดำเนินงานจะมีรายได้สูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วง High season ที่ผู้ใช้บริการจะเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นจากโรคที่มากับฤดูฝนและหนาว และการมุ่งเน้นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 5 ศูนย์ และรายได้จากการบริการที่มีรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังสูงขึ้นตามผลดำเนินการ ที่ผ่านมา โดยคาดว่าปี 2559 นี้ รายได้รวมจะโตกว่า 15% และกำไรสุทธิโตกว่า 100% สำหรับความคืบหน้าการลงทุนอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ลาดพร้าว ขณะนี้มีคืบหน้ากว่า 60% โดยมีโครงสร้างชั้นครบถ้วน 6 ชั้น พร้อมทั้งมีการดำเนินงานระบบต่างๆ แล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้บางส่วนในปลายปี 2559 นี้ และเปิดให้บริการได้ครบในไตรมาสที่ 1/2560 โดยประกอบด้วยศูนย์การแพทย์ต่างๆ ดังนี้ ศูนย์สมองและระบบประสาท, ศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ, ศูนย์ตรวจสุขภาพ, ศูนย์กระดูกและข้อ, ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬา, ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และหอพักผู้ป่วยใน ด้านความคืบหน้าการลงทุนโครงการศูนย์พักฟื้นและดูแลผู้สูงอายุครบวงจร และโรงพยาบาล ลาดพร้าว ลำลูกกา คาดว่าจะย้ายสถานที่ก่อสร้างโครงการศูนย์พักฟื้นและดูแลผู้สูงอายุไปดำเนิน การบนพื้นที่เดียวกันกับโรงพยาบาลลาดพร้าวลำลูกกา โดยสร้างเป็นอาคารแฝดคู่กับอาคารโรงพยาบาล ลาดพร้าวลำลูกกา โดยเพิ่มจำนวนเตียงจาก 50 เตียงเป็น 100 เตียง พร้อมทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น สถานออกกำลังกายและสปาสำหรับผู้สูงอายุ สระน้ำอุ่นในร่มเพื่อกิจกรรมธาราบำบัด และห้องอเนกประสงค์เพื่อกิจกรรมต่างๆ สำหรับผู้สูงวัย คาดว่างบประมาณที่ใช้ประมาณ 200-250 ล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนที่ได้รับจากการระดมทุน IPO จำนวน 150 ล้านบาท ตามนโยบายที่มีอยู่เดิม และให้จัดสรรเงินคงเหลือจากผลประกอบการของบริษัทฯ เพื่อการลงทุนในส่วนของการขยายขนาดและขอบเขตเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการ ทั้งนี้ จะขอสิ่งแวดล้อมและอนุญาตก่อสร้างพร้อมกับอาคารโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา ภายในไตรมาส 3/ 2559 นี้ และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 2560 แล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการในปี 2562 ด้านความคืบหน้าการลงทุนในโรงพยาบาลเอกชนที่มีผลกำไร ทางทีมที่ปรึกษาฯ อยู่ในระหว่างวิเคราะห์ผลประกอบการของแต่ละโรงพยาบาลฯ และการศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุน การประเมินราคาขาย และสัดส่วนที่พร้อมจะลงทุน โรงพยาบาลเอกชนย่านพัฒนาการ และสมุทรปราการ ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลได้ในไตรมาสที่ 3/2559 นี้ รวมถึงการเจรจาซื้อขายทรัพย์สินโรงพยาบาลเดชา ผลของการเจรจาเบื้องต้นกับทางตัวแทนโรงพยาบาลเดชา ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ได้แจ้งว่าราคาประเมินกลางแตกต่างจากราคาที่ทางโรงพยาบาลเดชาต้องการขาย และได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าโรงพยาบาลฯ ต้องใช้งบการปรับปรุงอาคารและพื้นที่เพิ่มเติมอีกบางส่วน ทำให้มูลค่าการลงทุนค่อนข้างสูง ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลฯ ได้เสนอทางเลือกใหม่ในระหว่างที่ยังไม่สามารถตกลงซื้อขายโรงพยาบาล โดยทาง LPH ยินดีที่จะเช่าระยะยาว ซึ่งทางตัวแทนฯ รับข้อเสนอนี้ไว้ โดยจะขอนำไปหารือกับทางหุ้นส่วนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะแจ้งผลให้ทราบโดยเร็ว
แท็ก ซีอีโอ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ