ชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ความเชื่อมั่นของมนุษย์เงินเดือนต่อเศรษฐกิจจะเฟื่องฟูยุครัฐบาลบิ๊กตู่ หลังลงประชามติผ่านเห็นชอบของสาธารณชน กรณีศึกษาตัวอย่าง มนุษย์เงินเดือน ใน 15 จังหวัด

ข่าวทั่วไป Tuesday August 23, 2016 10:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจเรื่อง ความเชื่อมั่นของมนุษย์เงินเดือนต่อเศรษฐกิจจะเฟื่องฟูยุครัฐบาลบิ๊กตู่ หลังลงประชามติผ่านของสาธารณชน กรณีศึกษาตัวอย่าง มนุษย์เงินเดือนใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา มุกดาหาร ขอนแก่น อุดรธานี ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม ชลบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 2,148 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการช่วงวันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.4 เชื่อมั่นมากขึ้นต่อเศรษฐกิจจะเฟื่องฟูยุครัฐบาลบิ๊กตู่ หลังลงประชามติผ่านความเห็นชอบของสาธารณชน ในขณะที่ร้อยละ 27.1 เหมือนเดิม และร้อยละ 9.5 เชื่อมั่นลดลง ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงแผนการซื้อสินค้าคงทนของมนุษย์เงินเดือน พร้อมราคาที่คิดว่าจะมีกำลังซื้อในยุครัฐบาลบิ๊กตู่ เปรียบเทียบกับ ราคาที่เคยสำรวจพบในช่วงเดือนมิถุนายน พบว่า ความสามารถซื้อสินค้าคงทนของมนุษย์เงินเดือนที่คิดว่าจะมี เพิ่มสูงขึ้นทุกตัว ตั้งแต่ บ้านหลังใหม่ เพิ่มขึ้นจาก 9 แสนกว่าบาทในเดือนมิถุนายน มาอยู่ที่ 9.5 ล้านบาท ในการสำรวจหลังการลงประชามติผ่านร่างรัฐธรรมนูญ รองลงมาคือ ความสามารถซื้อรถยนต์คันใหม่ที่มนุษย์เงินเดือนคิดว่าจะมีเพิ่มขึ้นจาก 8 แสนกว่าบาท มาอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท ตามด้วย ทีวีหลังใหม่ ตู้เย็น หลังใหม่ ซึ่งความสามารถซื้อของมนุษย์เงินเดือนที่คิดว่าจะมีเพิ่มขึ้นทุกตัว นอกจากนี้ เมื่อถามถึง ไลฟ์สไตล์ ความตั้งใจจะพบปะสังสรรค์ทานข้าวนอกบ้านของมุนษย์เงินเดือน พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.4 ตั้งใจจะพบปะสังสรรค์ทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 39.4 ระบุเหมือนเดิม และเพียงร้อยละ 7.2 ระบุจะน้อยลง ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึง ตัวชี้วัดผลงานรัฐบาลบิ๊กตู่ กระตุ้นความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ พบใน 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้อยละ 81.7 ระบุ การลงประชามติเห็นชอบ ร่างรัฐธรรมนูญของคนส่วนใหญ่ รองลงมาคือ ร้อยละ 80.9 ระบุความซื่อสัตย์สุจริตของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและรัฐบาล รองลงไปคือ ร้อยละ 73.6 ระบุ การค้าระหว่างประเทศดีขึ้น ร้อยละ 73.1 ระบุประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดีขึ้น เช่น การค้ามนุษย์ การต่อต้านค้างาช้าง ความโปร่งใส และการท่องเที่ยว เป็นต้น และที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.8 ระบุ สภาพรถติด จราจรคับคั่ง คือตัวชี้วัดว่าเศรษฐกิจดี คนมีเงินออกมาจับจ่ายใช้สอย ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ