หน้าใส ไม่ต้องพึ่งแอพด้วย E-Lase Plus Program ลบรอยแดง กำจัดรอยดำ แบบอยู่หมัด!

ข่าวบันเทิง Sunday August 28, 2016 21:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--ขอบฟ้า พีอาร์ เอเจนซี่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาหนักที่รบกวนใจ หนุ่มๆ สาวๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือปัญหาของสิวอย่างแน่นอน แต่ที่แย่ไปกว่านั้นแม้ว่าสิวหายไปแล้ว ก็ยังคงทิ้งปัญหารอยต่างๆไว้ให้รำคาญใจ ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดงจากสิว อยู่บนใบหน้าเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากกับหนังหน้าเรามาช้านาน อยู่กันยาวหลายเดือน บางคนก็เป็นปี ซึ่งการแก้ปัญหาด้วยการทาครีมเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากเลือกวิธีที่รักษาปัญหาจากต้นเหตุโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ผลลัพธ์การรักษาจะช่วยไม่ให้กลับมามีรอยให้รำคาญใจอีก พรเกษมคลินิก คลินิกรักษาผิวหน้าและผิวพรรณให้มีสุขภาพดีที่มีชื่อเสียงในการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) เป็นคลินิกที่ติดอันดับต้นๆของไทยในการรักษาสิว และปัญหาผิวต่างๆมายาวนานกว่า 30 ปี มีห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการต่างๆทางผิวหนัง รวมทั้งหาสาเหตุของเชื้อสิวที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ของการรักษาเป็นที่ยอมรับจนเป็นจุดเด่นที่ถูกกล่าวขานจากผู้ทีมาใช้บริการว่า รักษา "สิว" ที่ไหนไม่หาย มา พรเกษมคลินิก ปัจจุบัน พรเกษมคลินิก ถือเป็นองค์กรที่มีการรวมตัวของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ที่มากที่สุดในประเทศไทยประมาณกว่า 50 ท่าน ซึ่งประกอบไปด้วย คณะคณาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง และ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังผู้นำเสนอโครงการวิชาการ พรเกษมคลินิก ขอแนะนำ The New Signature ของพรเกษมคลินิก ที่พัฒนามาจาก โปรแกรม E-lase ที่เป็นโปรแกรมยอดนิยมและเห็นผลที่สุด! เพราะหลังจากสิวหาย ก็มักจะทิ้งรอยแดง รอยดำตามมา การรักษาด้วยยาก็สามารถเห็นผลได้ แต่ต้องใช้เวลานาน จึงทำให้ผู้มารับบริการจำนวนมากเลือกใช้ เลเซอร์ในการรักษา เพราะจะช่วยย่นระยะเวลาในการรักษาให้เห็นผลได้เร็วขึ้น โปรแกรม E-lase Plus จึงเป็นตัวเลือกหมายเลขหนึ่ง เพราะเห็นผลการรักษาได้ตั้งแต่ครั้งแรก E-lase Plus E-lase Plus เป็นโปรแกรมลบรอยแดง รอยดำ เริ่มด้วยการใช้เลเซอร์ VBeam อันเป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่า ช่วยรักษารอยแดงจากสิวได้ผลสูงสุด ผสมเทคนิคเฉพาะทางของพรเกษมคลินิก เพื่อแก้ความผิดปกติของหลอดเลือด นอกจากนี้ ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ และรักษาโรคและความผิดปกติของผิวหนัง ผิวหนังที่ได้รับการรักษา จะมีความยืดหยุ่นและรอยแดงจางลง ในขั้นที่ 2 จะเป็นการทำทรีทเมนท์ ผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหนังด้วยเครื่อง Rejuvenation ที่จะช่วยให้รูขุมขนของผิวหนังบนใบหน้าเปิดกว้างเพื่อทำให้วิตามินแทรกซึมลงไปยังผิวหนังได้มากกว่าการทาครีมหรือโลชั่น ซึ่งจะอยู่ได้แค่บนชั้นผิวหนังเท่านั้น ซึ่งวิตามินที่ใช้ในการทำ Rejuvenation มีด้วยกันหลายชนิด แพทย์จะพิจารณาตามลักษณะของผิวหน้าโดยวิตามินต่างๆจะมีคุณสมบัติต่างๆกัน อาทิ การช่วยลดรอยแผลเป็น รอยดำจากสิว ทำให้ผิวนุ่ม เรียบเนียน ขาวใสขึ้น บางวิตามิน ช่วยในเรื่องรักษาฝ้า กระตื้น ทั้งสองขั้นตอน จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง เพื่อตรวจสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนทำ หากพบว่ามีสิวอักเสบ แพทย์อาจจะรักษาสิวให้หายเป็นปกติเสียก่อน โดยหลังทำ ผิวอาจจะมีสีชมพูระเรื่อ เพราะมีการกระตุ้นระบบการหมุนเวียนของเลือดบริเวณนั้นได้ดีขึ้นนั่นเอง ถาม-ตอบ กับผู้เชี่ยวชาญ โดย พญ.ปิยะดา ทิพรังกร Board of Dermatologist แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังประจำพรเกษมคลินิก ผู้ป่วยใดที่ไม่สามารถทำการรักษา E-Lase Plus ได้ ? - E-Lase Plus ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีผิวสีเข้ม เนื่องจากจะมีการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีผิว จะต้องทำการรักษาปริมาณเท่าไหร่ - แพทย์ผิวหนังจะประเมินการรักษาของผู้ป่วยถึงประมาณของการรักษาที่ตรงกับผิวของผู้ป่วย ระยะเวลาการรักษา - ระยะเวลาของการรักษาด้วยเลเซอร์ ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ของผู้ป่วย ความต้องการที่จะได้รับการรักษา การรักษาส่วนใหญ่ระหว่าง 20-30 นาที อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษา - ขึ้นอยู่กับชนิดและพื้นที่ของการรักษา ผู้รับการรักษาจะมีการผลการรักษาที่แตกต่างกันและความชัดเจนของ บางรายอาจพบรอยช้ำหรือสีแดงที่มีเฉพาะจุด เป็นเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ ในขณะที่คนอื่น ๆ อาจจะมีสีแดงเล็กน้อยเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลในการรักษา และจะจางหายไป ข้อแนะนำเพิ่มเติม 1. หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดๆ 2. ควรหลีกเลี่ยงการขัดหน้า หรือนวดหน้าแรงๆ 3. พักผ่อนให้เพียงพอและทำจิตใจให้เบิกบาน ไม่เครียด 4. เมื่อเป็นสิวอุดตัน อย่ากดหรือบีบสิวเอง ควรรับการรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ทิ้งท้ายจาก คุณหมอปิยะดา "ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูง รักษาได้ทั้งรอยแดงและรอยดำ ทำได้เร็ว ผลข้างเคียงน้อย ไม่เจ็บ ไม่มี downtime คนไข้ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ และหลังการรักษา 5-6 ครั้ง คนไข้ค่อนข้างพอใจมาก" พญ.ปิยะดา ทิพรังกร แพทย์ผู้เชียวชาญทางผิวหนัง พรเกษมคลินิก ค่าใช้จ่ายในการรักษา · ราคา 7,500 บาท สำหรับการทำรอยแดง 100 จุด (การรักษารอยดำทำทั่วหน้า) · ราคา 19,900 บาท สำหรับการทำรอยแดง 300 จุด (การรักษารอยดำทำทั่วหน้า) *ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงราคาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โปรแกรม E-Lase Plus พร้อมให้บริการทุกสาขา สอบถามเพิ่มเติม Call Center 02 252 1317 ความสำเร็จ จากอดีตสู่ปัจจุบันของ "พรเกษมคลินิก" พรเกษมคลินิก ก่อตั้งโดย นพ.สุนทร ศรีปรัชญาอนันต์ ร่วมกับ นพ.สุชาย ศรีปรัชญาอนันต์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ซึ่งในครั้งแรกเป็นคลินิกรักษาโรคผิวหนัง เปิดทำการในปี พ.ศ. 2528 โดยใช้ชื่อสุนทรการแพทย์ สาขาวงเวียนใหญ่ เป็นสาขาแรก เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง แม้จะไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ใดๆ ก็มีคนไข้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 200 คนต่อวัน ด้วยคำแนะนำแบบปากต่อปากว่า มีแพทย์ผิวหนังชื่อดังจากสถาบันชั้นนำของประเทศเป็นผู้รักษา ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนชื่อเป็น พรเกษมคลินิก แม้ขยายกว่า 7 สาขาแล้วในขณะนั้น คนไข้ก็ยังเข้ามามากมายแทบไม่เคยมีที่นั่งพอ ต้องยืนรอกันนอกร้านแทบทุกสาขา เพราะชื่อเสียงในการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) อย่างละเอียด มีห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการต่างๆทางผิวหนัง แพทย์พรเกษมคลินิกล้วนแต่เป็นแพทย์เฉพาะทางผิวหนังที่ผ่านการศึกษาวิชาแพทย์ทั่วไปเป็น เวลา 6 ปี พร้อมทั้งศึกษาวิชาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 3 ปี และได้รับวุฒิบัตร หรืออนุมัติบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) คนไข้จึงเชื่อมั่นได้ว่า เมื่อมารักษาที่ พรเกษมคลินิก จะได้รับการรักษาที่ถูกวิธีและปลอดภัย ด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้ของคลินิก และผสมผสานนวัตกรรมในการรักษาเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันพรเกษมคลินิกมีทั้งสิ้น 32 สาขา ถือเป็นองค์กรที่มีการรวมตัวของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ที่มากที่สุดในประเทศไทยประมาณกว่า 50 ท่าน ซึ่งประกอบไปด้วย คณะคณาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังผู้นำเสนอโครงการวิชาการ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการรักษาสุขภาพผิวแห่งวงการแพทย์ผิวหนังของ ประเทศไทย ทั้งนี้ทุกท่านรวมตัวกันภายใต้วัตถุประสงค์เดียวคือเพื่อที่จะศึกษา วิเคราะห์ ค้นคว้า นำความรู้และประสบการณ์จากการรักษามาแลกเปลี่ยน และพัฒนาร่วมกัน รวมทั้งใช้ข้อมูลจากประสบการณ์การดูงาน การประชุม และการอบรมทั้งในและต่างประเทศ มาประยุกต์ใช้ในการรักษา รวมถึงสามารถนำความรู้ และนวัตกรรมทางด้านการรักษาต่าง ๆ ที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ทั้งในระดับประเทศไทยและระดับสากลมาพัฒนา เพื่อการดูแลรักษารักษาสุขภาพผิวให้มีประสิทธิผลอย่างสูงสุดและเป็นที่พึงพอใจมากที่สุด ที่มาของชื่อ "พรเกษมคลินิก" ชื่อพรเกษมคลินิก ถูกตั้งขึ้นตามชื่อต้นของมารดา ( คุณพรอำไพ ) และบิดา ( เกษม ) ของหมอสุชาย และ หมอสุนทร ศรีปรัชญาอนันต์ ซึ่งเป็นผู้เริ่มก่อตั้งคลินิกแห่งแรก เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่คุณพ่อและคุณแม่ของท่านทั้งสอง และเพื่อรำลึกถึงบุญคุณของทั้งสองท่านที่หล่อหลอมเลี้ยงดูและปลูกฝังให้เป็น คนดี และให้ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ดังจะเห็นได้จากความมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้งคลินิก และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มาสืบทอดเจตนารมณ์ในการรักษาเพื่อให้ทุกคนมี สุขภาพผิวที่ดี และสามารถดูแลรักษาสุขภาพผิวให้มีสุขภาพดีโดยคำนึงถึงปัจจัยในการรักษาพื้นฐานเป็นหลัก ใช้หลักทางการแพทย์ในการดูแลรักษา และไม่หลอกลวงคนไข้และค้ากำไรเกินควร พรเกษมคลินิก พร้อมเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคในเรื่องผิวพรรณและความงาม โดยมุ่งมั่นรักษาผิวหน้าและผิวพรรณคนไข้ให้มีสุขภาพดี ด้วยขั้นตอนการรักษาที่ถูกต้องและได้มาตรฐานทางการแพทย์สากล และรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ที่มีประสบการณ์ ดูแลและบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดีอย่างถูกขั้นตอนในการดูแลบำรุงผิวพรรณ โดยวิเคราะห์แนะนำวิธีที่เหมาะแก่คนไข้ที่มีลักษณะผิวที่แตกต่างกัน เป็นวิธีการที่ถูกต้องได้รับการยอมรับทางการแพทย์สากลภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ที่มีประสบการณ์ Dermatologist คือใคร Dermatologist คือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง ใช้เวลาในการศึกษาวิชาแพทย์ทั่วไปเป็นเวลา 6 ปี และต้องใช้เวลาศึกษาวิชาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี มีเพียงที่ จุฬาฯ, ศิริราช, รามาฯ, พระมงกุฎฯ และสถาบันโรคผิวหนัง เท่านั้นที่ได้รับการรับรองหลักสูตรตจวิทยา (ผิวหนัง) จากแพทยสภา และได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขา ตจวิทยา หรืออนุมัติบัตรตจวิทยา จึงมีความรู้และประสบการณ์ในการรักษาทางด้านผิวหนังโดยตรง ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการประเมินอาการและรักษาได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี ให้ผลในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำไมต้องรักษาสิวด้วย Dermatologist เคยสังเกตไหมว่า เวลาที่มีปัญหาเรื่อง หู คอ จมูก ต้องไปรักษากับ "Otorhinolaryngologist" (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน หู คอ จมูก) หรือเวลาที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกต้องไปรักษากับ "Orthopedist" (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางกระดูกและข้อ) ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยว่าเวลาที่เกิดมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าและผิวพรรณ จึงควรรักษาโดย "Dermatologist" (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง) เพราะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฯ มีความรู้และประสบการณ์ในการรักษาโดยตรง สามารถประเมิน อาการได้อย่างถูกต้อง ทำให้ผลการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาในการรักษาโดยไม่จำเป็น สัญลักษณ์ by Dermatologist เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าทีมแพทย์ผู้ปฎิบัติการในพรเกษมคลินิกมีความสามารถ เชี่ยวชาญในการตรวจวิเคราะห์ ดูแลรักษา อาการที่เกี่ยวกับใบหน้า ผิวพรรณ โรคผิวหนังทุกชนิด เส้นผม และเลเซอร์ด้านผิวหนัง ด้วยความรู้ความชำนาญที่ผ่านการศึกษาตามมาตรฐานการฝึกอบรมจากสถาบันผลิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง ในประเทศไทย และได้รับวุฒิบัตร หรืออนุมัติบัตรโดยแพทย์สภา นวัตกรรมที่ใช้ประกอบการรักษา ผ่านการวิเคราะห์ พิจารณาอย่างถ้วนถี่เป็นอย่างดีจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง "Dermatologist" นี่คือเหตุผลว่าทำไมการรักษาผิวหน้า และผิวพรรณ ควรรักษาโดย "Dermatologist" สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าและผิวพรรณ สามารถขอรับการรักษาและการดูแลอย่างถูกวิธีจาก ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist) ได้ที่ พรเกษมคลินิก ทุกสาขา
แท็ก ว่าน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ