รู้ใจดอทคอมแนะ 6 สิ่งควรเช็คเพื่อเตรียมรถให้พร้อมลุยในวันฝนกระหน่ำ ขับปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทางผ่านพื้นที่น้ำรอการระบาย

ข่าวบันเทิง Wednesday August 31, 2016 16:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--เอฟเอคิว ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูฝนในปีนี้ หลายพื้นที่ในไทยถูกฝนเทกระหน่ำมาแบบไม่มีสัญญาณเตือน จนทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำรอระบาย โดยเฉพาะเขตเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ที่นอกจากฟ้าฝนจะมอบความชุ่มฉ่ำแล้ว ยังมาพร้อมปัญหาการจราจรที่ติดขัดหนักไปอีกขั้น ผู้ใช้รถใช้ถนนจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเดินทางในช่วงฝนตก โดยเฉพาะเรื่องการขับขี่ด้วยสภาพท้องถนนที่อาจไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางและลื่นกว่าปกติ อาจทำให้หลายคนมีอาการเบื่อหน่ายการเดินทางในช่วงฝนตก แต่หากคุณไม่สามารถเลี่ยงการเดินทางได้หรือเจอพายุฝนแบบไม่ทันตั้งตัว วันนี้ "รู้ใจดอทคอม (https://www.roojai.com)" นวัตกรรมประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ ขอแนะนำวิธีเตรียมรถให้พร้อมเพื่อรับมือการเดินทางช่วงฝนตกกับ 6 สิ่งที่ต้องตรวจเช็คก่อนเดินทาง ให้รถคุณพร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์ และช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจและอุ่นใจตลอดการเดินทาง · ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง ระบบไฟส่องสว่างต่างๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะการขับขี่ท่ามกลางสายฝน ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรตรวจเช็คระบบไฟก่อนออกเดินทางตั้งแต่ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอกว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ รวมทั้งทำความสะอาดคราบสกปรกออกให้ใส หรือหากมีหลอดไหนชำรุดก็ควรเปลี่ยนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานทุกดวง เพื่อความสว่างและเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้นและยังช่วยให้รถคันอื่นเห็นรถเราได้ชัดขึ้นอีกด้วย · ตรวจเช็คสภาพยาง ยางรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่ในหน้าฝนมากที่สุด ผู้ขับขี่จึงต้องตรวจเช็คยางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยอายุการใช้งานของยางไม่ควรเกิน 2 ปี หรือที่ระยะทางประมาณ 50,000 กม. และควรสับเปลี่ยนยางรถยนต์ที่ระยะทาง 10,000 กม. ผู้ขับขี่สามารถสังเกตได้จากเนื้อยางจะต้องไม่แข็ง ดอกยางจะต้องไม่สึกจนต่ำกว่าขีดบอกระดับต่ำสุดของยาง หรือต้องลึกมากกว่า 2 มม. ถ้าต่ำกว่านี้ควรทำการเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญคืออย่าลืมตรวจเช็คยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งานรวมไปถึงการตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง · ตรวจเช็คระบบปัดน้ำฝน ผู้ขับขี่ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนหรือเฉพาะยางปัดทุกปี เพราะยางปัดน้ำฝนของรถในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยจะเสื่อมสภาพเร็ว โดยเฉพาะรถที่จอดกลางแดดเป็นประจำ ลักษณะใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพแล้วนั้นเวลาปัดจะมีคราบน้ำเป็นเส้นๆ ที่กระจก ปัดแล้วไม่สะอาดใส หรือมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ซึ่งควรทำการเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนทันทีเพื่อป้องกันกระจกเป็นรอยในภายหลัง นอกจากใบปัดน้ำฝนแล้ว ผู้ขับขี่ควรตรวจเช็คสวิทช์ควบคุมว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ รวมทั้งเช็คอัตราความเร็วในการปัด หัวฉีดน้ำและถังพักน้ำ รวมทั้งลองสังเกตดูการฉีดของน้ำล้างกระจกว่าแรงดีหรือไม่ และฉีดอยู่ในแนวที่สมควรหรือยัง ถ้าหัวฉีดอุดตันให้ใช้เข็มเล็กๆ แทงเข้าไปทำความสะอาดและปรับทิศทางให้ไปแนวกึ่งกลางกระจก พร้อมเติมในถังพักน้ำให้เต็ม · ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ เริ่มเช็คจากของเหลวต่างๆ ว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ โดยเช็คได้จากก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง หรือสังเกตว่าถึงระยะที่ควรต้องเปลี่ยนถ่ายหรือไม่ ถ้าครบวาระแล้วก็ทำการเปลี่ยน รวมทั้งสังเกตตามซีนเครื่อง ซีนเกียร์ และตามรอยต่อต่างๆ ว่ามีคราบน้ำมันซึมออกมาหรือไม่ หรือดูที่ใต้ท้องรถว่ามีคราบน้ำมันหยดไว้หรือไม่ หากพบว่ามีการรั่วซึมให้รีบซ่อมแซมทันที · ตรวจเช็คสภาพเบรกและช่วงล่าง ผ้าเบรกและน้ำมันเบรกควรเปลี่ยนที่ระยะทาง 50,000 กม. หรือไม่ควรเกิน 2 ปี โดยควรเช็คระดับน้ำมันเบรกทุกสัปดาห์ รวมถึงพวกท่อทางเดินน้ำมันเบรกว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ และหมั่นสังเกตการทำงานของเบรกว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น มีเสียงดังขณะเบรก หรือการเบรกไม่ค่อยอยู่ รถรุ่นใหม่บางรุ่นจะมีไฟเตือนบนหน้าปัด ซึ่งหากผู้ขับขี่พบสิ่งผิดปกติ หรือเกินระยะการใช้งานแล้วให้รีบแก้ไขโดยด่วน เพราะถ้าฝืนขับไปอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายในหน้าฝนแบบนี้ ส่วนช่วงล่างนั้นให้ดูที่ยางหุ้มแร็ค, ยางหุ้มเพลาและโช็คอัพ หากมีรอยฉีดขาดหรือมีคราบน้ำมันรั่วซึมควรเปลี่ยนทันที เพราะโคลน หิน ดิน ทรายจะเข้าไปทำความเสียหายได้ง่าย เวลาที่เราขับลุยน้ำ · เตรียมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับหน้าฝน ในการเดินทางช่วงหน้าฝนนี้ อุปกรณ์กันฝนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร่ม เสื้อกันฝน รวมถึงไฟฉายเป็นสิ่งที่ควรหามาติดรถไว้เผื่อยามจำเป็น นอกจากนี้พวกอุปกรณ์ซ่อมฉุกเฉิน เช่น สเปรย์ไล่ความชื้น สายลากรถ สายพ่วงแบตเตอรี่ ไปจนถึงที่ชาร์จแบตฯ มือถือ พาวเวอร์แบงท์ ก็มีความจำเป็นเช่นกัน หากรถของคุณเกิดเสียทาง การเตรียมรถให้พร้อมรับมือกับสายฝนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทุกคนสละเวลาเล็กน้อยมาตรวจเช็คว่ารถคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากเกินคุ้มเลยทีเดียว เมื่อเตรียมรถคุณให้พร้อมรับมือหน้าฝนแล้ว เรื่องประกันรถยนต์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุก็ต้องเตรียมพร้อมเช่นกัน https://www.roojai.com นำเสนอแผนประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ที่มีความหลากหลาย และตรงกับไลฟ์สไตล์การขับขี่รถยนต์ ในราคาที่คุ้มค่า พร้อมการันตีว่าเจ้าหน้าที่สำรวจภัยจะถึงจุดเกิดเหตุภายใน 30 นาที และอุ่นใจยิ่งขึ้นเมื่อมี "รู้ใจแอป" แอปแรกที่ทำให้คุณเห็นตำแหน่งจุดเกิดเหตุและตำแหน่งของเจ้าหน้าที่สำรวจภัยแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบ GPS พร้อมรับมือทุกการเดินทาง ทุกที่ ทุกเวลา ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
แท็ก ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ