ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฯ พบผู้ป่วยทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 % ต่อปี แต่มีโอกาสรักษาหายถึง 75% เตรียมจัดงาน “ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุขMIRACLE is all around” ครั้งที่ 3 เนื่องในวันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก

ข่าวทั่วไป Monday September 5, 2016 14:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฯ เผยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองพบผู้ป่วยสูงขึ้นเฉลี่ย 4% ต่อปี ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทย แต่มีโอกาสรักษาหายถึง 3 ใน 4 ราย และปัจจุบันมีการตรวจพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในกลุ่มคนอายุน้อยเพิ่มมากขึ้น ทั่วโลกจึงให้ความสำคัญและตื่นตัว ยกให้วันที่ 15 ก.ย. ของทุกปี ตรงกับวัน "มะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก" และได้จัดงาน "ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุข:MIRACLE is all around" ครั้งที่ 3 เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงานกิจกรรมให้ความรู้พร้อมพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยามาแนะแนวทางการรักษาและการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง ในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ย.นี้ ณ สยามพารากอน ชั้น 3 ลาน Living Gallery ฟรี!ตลอดงาน ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญและตื่นตัวกับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากเป็นโรคมะเร็งทางโลหิตวิทยาที่พบได้บ่อยในประเทศไทยและทั่วโลก จึงยกให้วันที่ 15 กันยายน ของทุกปี จะตรงกับวัน "มะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก" และในปีนี้ "ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย" ด้วยความร่วมมือจากโรงเรียนแพทย์ และสถานพยาบาลที่สำคัญของประเทศ รวม 13 แห่ง จัดกิจกรรม "ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุข : MIRACLE is all around" ครั้งที่ 3 ในวันที่ 11 กันยายน 2559 ณ สยามพารากอน ชั้น 3 ลาน Living Gallery โดยการจัดงานในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนไข้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทุกคน มีคุณภาพชีวิต และแรงบันดาลใจที่ดี เพื่อที่จะก้าวข้ามผ่านโรคร้ายไปให้ได้ และรู้สึกว่าถึงจะป่วยแต่ก็ป่วยอย่างมีความสุข ทั้งนี้ภายในงานจะพบกับแขกรับเชิญพิเศษและกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนี้ · พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา เกี่ยวกับแนวทางการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในปัจจุบัน และไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง · มินิคอนเสิร์ตจากคุณ "หนุ่ย นันทการนต์" ศิลปินนักร้องชื่อดังและอดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 2 · ฟังข้อคิดดีๆ "Happiness Heart & Health" จากพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เปิดประสบการณ์ตรงของคุณ "จุ๋ย วรัทยา" เมื่อคนที่คุณรักเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง · พูดคุยกับอดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ผันตัวเองมาเป็นอาสาสมัครใน "โครงการพี่เลี้ยงเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง" นำทีมโดย เบล ศิรินทิพย์ จากเรื่องจริงกะเบลล์ และ ปริญลดา สาวสู้มะเร็ง ทั้งนี้ จากสถิติพบผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในประเทศไทยเฉลี่ยปีละ 3,000 ราย โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งทางโลหิตวิทยาที่พบได้บ่อยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และติดอันดับ 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย ทั้งนี้อุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองพบว่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก โดยสูงขึ้นปีละ 4% โดยในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรายใหม่เฉลี่ยวันละ 8 ราย ปัจจุบัน และอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยรายใหม่น้อยลงกว่าสาเหตุปัจจัยหลักจากสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มความเสี่ยง มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมี 2 ชนิด คือ ชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้น หรือเอ็นเอชแอล (NHL) จะพบอุบัติการณ์สูงขึ้นตามอายุ โดยพบมากในผู้สูงอายุ โดยผู้ป่วยที่พบมีอายุเฉลี่ย 57 ปี เพศชายพบบ่อยมากกว่าเพศหญิง ส่วนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิ้น (HD) จะพบบ่อยในช่วงอายุ 20-30 ปี โดยผู้ป่วยที่พบมีอายุเฉลี่ย 37 ปี อาการเบื้องต้น ที่พบบ่อยคือ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ขาหนีบ ลำคอ หรือส่วนอื่นๆโต นานเกิน 2-3 สัปดาห์ และมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน และความจำเสื่อมร่วมด้วย วิธีการรักษา ได้แก่ การใช้เคมีบำบัด การใช้แอนติบอดี้ การฉายแสง และการปลูกถ่ายไขกระดูก (สเต็มเซลล์) โดยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งเป็น 4 ระยะ หากผู้ป่วยรับการรักษาตั้งแต่ระยะที่ 1 มีโอกาสหายขาดถึงร้อยละ 75 ส่วนผู้ป่วยที่รับการรักษาในระยะที่ 2-4 มีโอกาสหายขาด ร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่นๆ และไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะพบมาก แต่เป็นมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ถึงร้อยละ 75 แต่ปัญหาของผู้ป่วยในระยะแรกจะไม่ทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเหมือนอาการอื่นๆที่พบได้ในภาวะต่างๆ เช่น การติดเชื้อ ภูมิแพ้ เหงื่อออกตอนกลางคืน เป็นไข้ และน้ำหนักลด ดังนั้นความรู้ความเข้าใจ การดูแลสุขภาพตนเองอย่างดี รวมทั้งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาตั้งแต่เริ่มต้น จะทำให้วินิจฉัยและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีโอกาสในการหายได้มากขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วนั้น ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนสำคัญในการผลักดัน และให้กำลังใจผู้ป่วยระหว่างการรักษาร่วมกับแพทย์ที่จะให้การรักษาที่ดีที่สุดและมีโอกาสหายมากที่สุด โดยทั่วไปอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมักจะกินเวลานาน และไม่สามารถอธิบายได้จากสาเหตุอื่น แต่อย่างไรก็ตามมะเร็งขนิดนี้สามารถตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดและยาแอนตี้บอดี้ได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดต่อลงทะเบียนได้ที่บริเวณหน้างาน ฟรี!! หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook : ThaiLymphoma หรือ อีเมลล์ :Thailymphoma@gmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ