สินเชื่อบ้านกรุงศรีครึ่งปีแรกทะลุ 3 หมื่นล้าน ดัน “โฮมฟอร์แคช” รุกตลาด พร้อมจับมือดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 9, 2016 09:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) โชว์ผลงานธุรกิจสินเชื่อบ้านครึ่งปีแรก 2559 เติบโตแข็งแกร่ง ยอดสินเชื่อใหม่ทะลุ 3 หมื่นล้าน ยอดสินเชื่อคงค้างเติบโต 12.7% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2558 มั่นใจตลาดครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developers) และลูกค้า มุ่งขยายตลาดจับมือดีเวลลอปเปอร์ท้องถิ่นในหัวเมืองใหญ่ นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรก 2559 ธุรกิจสินเชื่อบ้านกรุงศรีเติบโตแข็งแกร่ง โดยมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 34,000 ล้านบาท สำหรับยอดสินเชื่อคงค้างของธนาคารในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2559 มีมูลค่า 180,479 ล้านบาท เติบโต 12.7% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2558 เป็นผลจากการเดินหน้าปรับกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ เน้นการให้บริการ และเสริมทีมขาย พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ดีเวลลอปเปอร์และกลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้น "กลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง กรุงศรีจะมุ่งขยายตลาดไปยังกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำในระดับท้องถิ่นตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ และผลักดันผลิตภัณฑ์ทางเลือก "โฮมฟอร์แคช" (Home for Cash) สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้ารายย่อย หรือผู้ประกอบการที่ต้องการเสริมสภาพคล่อง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า นอกจากนี้กรุงศรีได้ร่วมกับดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ 6 รายใหญ่ นำเสนอแคมเปญอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4% ระยะเวลา 5 ปี และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ระยะเวลา 7 ปี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในการวางแผนการเงินระยะยาว ในช่วงที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอีกด้วย" นายณัฐพล กล่าว กรุงศรีมุ่งสร้างความแตกต่างในด้านผลิตภัณฑ์ และไม่แข่งขันเรื่องราคา รวมทั้งยังคงเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตามปกติ และรักษาระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ในระดับ 2.6% นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มตลาดสินเชื่อบ้านในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัยหนุน ทั้งทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น เม็ดเงินลงทุนภาครัฐทยอยเข้าสู่ระบบ ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากมีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาระหนี้จากโครงการรถยนต์คันแรกทยอยครบกำหนดในเดือนกันยายนนี้ ส่งผลให้กำลังซื้อเริ่มกลับมาบางส่วน อีกทั้งจะมีคอนโดมิเนียมที่รอโอนจำนวนมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ